ทิวากร: นักกิจกรรมบุกเยี่ยมชายที่ถูกคุมตัวเข้า รพ. จิตเวชขอนแก่นฯ หลังสวมเสื้อมีข้อความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์

นักกิจกรรมทางการเมืองรวมตัวกันที่โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์วันนี้ (17 ก.ค.) เพื่อขอเข้าเยี่ยมนายทิวากร วิถีตน ชายวัย 47 ปีที่ถูกคุมตัวไปตรวจอาการทางจิตเวชหลังจากที่เขาสวมเสื้อยืดที่มีข้อความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์

กลุ่มนักกิจกรรมจำนวน 6 คน นำโดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เดินทางไปที่ รพ.จิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้จัดพื้นที่ให้พูดคุยที่ด้านหน้าอาคารแห่งหนึ่ง กลุ่มนักกิจกรรมได้พยายามสอบถามทางโรงพยาบาลเพื่อขอเข้าเยี่ยม แต่ได้รับการปฏิเสธ

"ปัญหาคือเรื่องนี้มันลึกลับเกินกว่าจะเข้าใจได้" นายสมยศกล่าว

• ทิวากร : การควบคุมตัวชายผู้สวมเสื้อที่มีข้อความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์เข้ารพ.จิตเวช เต็มไปด้วยความคลุมเครือ
• “ปรากฏการณ์ 112 ริกเตอร์” ความพยายามแก้ไข กม.หมิ่นสถาบันที่ยังไม่มีเสียงตอบรับจากรัฐ
• วันเฉลิม: นายกฯ เตือนเยาวชนที่เคลื่อนไหวเรื่องผู้ลี้ภัย-ม.112 ระวังเสียอนาคต ด้านผู้นำ นศ.บอก "ไม่กลัว"

ตลอดการชี้แจงข้อมูลจากโรงพยาบาล มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ 3 นาย บันทึกวิดีโอเหตุการณ์ตลอดเวลา และยังมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกว่า 10 นาย กระจายกำลังอยู่ในบริเวณโรงพยาบาล

พญ.กนกวรรณ กิตติวัฒนากูล รอง ผอ.โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นฯ ชี้แจงกับกลุ่มนักกิจกรรมว่า ญาติได้แจ้งกับโรงพยาบาลว่าขอไม่ให้ใครเข้าเยี่ยม หากผู้ใดต้องการเยี่ยมต้องได้รับการยินยอมจากญาติก่อน แต่ยืนยันว่าขณะนายทิวากรอยู่ในสภาพที่ "สบายดี" สื่อสารได้ตามปกติ กินได้นอนหลับ

นายสมยศกล่าวว่า ในเมื่อนายทิวากรได้ประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับครอบครัว เหตุใดการเข้าเยี่ยมยังต้องรับการยินยอมจากครอบครัวอีก เขาได้พยายามสอบถามโรงพยาบาลด้วยว่า ตอนนี้นายทิวากรสามารถตัดสินใจเองได้หรือไม่

พญ.กนกวรรณชี้แจงว่า นายทิวากรอยู่ในสภาพที่ตัดสินใจเองได้ แต่ย้ำเช่นเดิมว่าการเข้าเยี่ยมต้องได้รับการยินยอมจากญาติ

รอง ผอ.โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นฯ ปฏฺิเสธที่จะชี้แจงถึงนโยบายการรับเข้ารักษา โดยบอกว่าเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลได้อนุญาตให้นายสมยศฝากหนังสือ 3 เล่มและกระดาษเขียนข้อความไปให้นายทิวากร

กลุ่มนักกิจกรรมยังได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวนายทิวากรทันทีเนื่องจากเห็นว่าการควบคุมตัวโดยไม่มีการแจ้งข้อหาและการนำตัวไปรักษาทั้งที่เขามีสติสัมปชัญญะดีและไม่มีลักษณะก่ออันตรายต่อผู้อื่นนั้นเข้าข่ายเป็นการควบคุมตัวตามอำเภอใจ

ไม่มีชื่อในระบบเวชระเบียน

บีบีซีไทยเดินทางไปที่โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์วันนี้ เพื่อขอเข้าเยี่ยมนายทิวากร แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ห้องเวชระเบียนว่าไม่มีบุคคลชื่อนายทิวากร วิถีตน หรือทิวากร โสภา (นามสกุลเดิม) อยู่ในระบบ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของโรงพยาบาลให้ข้อมูลกับผู้ที่ขอเข้าเยี่ยมว่านายทิวากรพักอยู่ที่ตึกชงโคและยืนยันว่าเขามีสภาพจิตใจดี แต่เหตุที่บุคคลภายนอกไม่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยมเนื่องจากเป็นความประสงค์ของญาติที่ไม่ต้องการให้เยี่ยม

ตึกชงโคเป็นอาคารสูง 2 ชั้น ตั้งอยู่ในกลุ่มอาคารที่เป็นหอผู้ป่วยชาย ล้อมรอบด้วยรั้วสูงประมาณ 2 เมตร ด้านหน้าตึกมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบยืนเฝ้าอยู่ 2 นาย เจ้าหน้าที่ตำวรจคนหนึ่งบอกว่ามีการจัดกำลังดูแลตลอด 24 ชม. และช่วงนี้ถือว่าต้องมีการดูแลพื้นที่ "เป็นพิเศษ"

ทิวากรคือใคร

นายทิวากร อายุ 47 ปี จบการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เคยเป็นผู้ชุมนุมเสื้อแดงในเหตุการณ์ทางการเมืองปี 2552-2553 ต่อมาได้กลับมาอยู่บ้านที่ จ.ขอนแก่น

เขาเริ่มสวมเสื้อยืดที่มีข้อความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์หลังเกิดกรณี "อุ้มหาย" นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองในกัมพูชา โดยมักจะสวมใส่ในพื้นที่ชุมชนและโพสต์ภาพพร้อมข้อความลงบนเฟซบุ๊ก

หลังจากโพสต์เฟซบุ๊กครั้งสุดท้ายว่ามีเจ้าหน้าที่ รพ.จิตเวชขอนแก่นฯ มาพบเมื่อวันที่ 9 ก.ค. ก็ไม่ปรากฏความเคลื่อนไหวอีกเลย ทั้งที่เขาโพสต์เฟซบุ๊กเป็นประจำ

ต่อมา เมื่อ 13 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ประชาไทสอบถามไปทางครอบครัวของนายทิวากร และได้รับการบอกเล่าว่า เขาถูกนำตัวไปรักษาที่ รพ.จิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นายทิวากร ซึ่งมีนามสกุลเดิมว่า "โสภา" ได้โพสต์ภาพถ่ายเอกสารที่ระบุว่าเป็น "หนังสือยืนยันการตัดนายทิวากร วิถีตน ออกจากตระกูลโสภา และตัดความเป็นแม่เป็นลูกกับนางทองเหรียญ โสภา" ซึ่งเขียนขึ้นในนามของนางทองเหรียญ

หนังสือฉบับนี้มีเนื้อหาโดยสรุปว่าหลังจากนายทิวากรใส่เสื้อยืดที่มีข้อความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์และเผยแพร่ภาพบนเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและ กอ.รมน. มาพบนางทองเหรียญหลายครั้ง นางทองเหรียญจึงขอยืนยันว่าเธอและคนในครอบครัวไม่เห็นด้วยและไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของนายทิวากร

"ข้าพเจ้าและคนอื่น ๆ ในครอบครัวขอประกาศว่านับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. 2563 นายทิวากร วิถีตน ได้ออกจากตระกูลโดยสมบูรณ์ และข้าพเจ้ากับนายทิวากรได้ตัดขาดความเป็นแม่-ลูกกันโดยเด็ดขาดแล้ว ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนายทิวากร ถือว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าและคนอื่น ๆ ในครอบครัว" หนังสือซึ่งมีความยาว 2 หน้า A4 ซึ่งในตอนท้ายมีลายมือชื่อ นางทองเหรียญและนายทิวากรกำกับไว้คู่กัน