แจ้งล่าสุด! น้ำเจ้าพระยาเพิ่ม ใช้พื้นที่เหนือเขื่อนชะลอน้ำไว้ชั่วคราว

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ตอนบนบริเวณภาคเหนือ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำเจ้าพระยาที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดพบว่ามีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,060 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) /วินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,900 ลบ.ม./วินาที

ใช้พื้นที่ว่างบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เป็นแก้มลิงชะลอน้ำไว้ชั่วคราว

ดังนั้น เพื่อควบคุมการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในอัตราไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที และลดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 12 จะใช้พื้นที่ว่างบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เป็นแก้มลิงชะลอน้ำไว้ชั่วคราว จะทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ยกตัวสูงขึ้น ซึ่งการยกระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จะทำเท่าที่จำเป็น เพื่อรักษาระดับน้ำไม่ให้เกิน 17.50 เมตร (รทก.) 

จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังและติดตามระดับน้ำอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อโครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา

สถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ฉบับที่ 4

ปัจจุบัน ณ วันที่ 11 กันยายน 2568 เวลา 06.00 น. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำ 443 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 46 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 386 ลบ.ม./วินาที หรือ 33 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณการระบาย 150 ลบ.ม./วินาที หรือ 13 ล้าน ลบ.ม./วัน จากการติดตามและคาดการณ์ปริมาณน้ำท่าเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีแนวโน้มทรงตัว 

เพื่อเป็นการช่วยลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ จะดำเนินการปรับลดการระบายน้ำจากเดิมอัตรา 150 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 100 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่ วันที่ 11-14 กันยายน 2568 โดยทยอยปรับลดการระบายน้ำเป็นลำดับต่อไป

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่อทรัพย์สินของประชาชน จากการที่ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักจะลดลงจากเดิมอีกประมาณ 0.30 – 0.50 เมตร จึงใคร่ขอให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ทราบ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไป