จีนเรียกร้องกองทัพสหรัฐฯ ยุติปฏิบัติการสุ่มเสี่ยงในทะเลจีนใต้ ชี้ เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง
ภัยคุกคามต่อความมั่นคง
กระทรวงกลาโหมของจีน เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการปฏิบัติการทางทหารในทะเลจีนใต้ โดยระบุว่า เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงในภูมิภาค และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการรั่วไหลของนิวเคลียร์ ในน่านน้ำยุทธศาสตร์
ถาน เค่อเฟย โฆษกกระทรวงฯ ย้ำถึงความต้องการของจีนสำหรับคำอธิบายที่ว่า เกิดอะไรขึ้นกับเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ที่ชนกับวัตถุลึกลับในน่านน้ำพิพาทเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
พร้อมระบุว่า ถ้อยแถลงของสหรัฐฯ ที่มีต่อเหตุการณ์ดังกล่าว “สั้นและไม่ชัดเจน”
“แนวทางที่ไร้ความรับผิดชอบและซ่อนเร้นเหล่านี้ ขาดความโปร่งใส ซึ่งอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดและการตัดสินที่ผิดพลาด จีนและประเทศเพื่อนบ้านในทะเลจีนใต้ ต้องตั้งคำถามถึงความจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงเจตนารมณ์ที่แท้จริงของสหรัฐฯ” ถาน กล่าว
อุบัติเหตุของกองทัพสหรัฐฯ
ตามรายงานของกองทัพเรือสหรัฐฯ “USS Connecticut” ซึ่งเป็นเรือดำน้ำพิฆาตแบบจู่โจมรวดเร็ว ชั้น Seawolf ชนกับวัตถุใต้น้ำไม่ทราบชนิดในทะเลจีนใต้ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ลูกเรือ 11 คนได้รับบาดเจ็บ
รายงานระบุว่า ระบบขับเคลื่อนนิวเคลียร์ของเรือดำน้ำ ไม่ได้รับผลกระทบ และยังสามารถกลับไปยังท่าเรือเกาะกวมของสหรัฐฯ เพื่อตรวจสอบติดตามผลได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งในเรื่องขอบเขตของความเสียหาย, เรือดำน้ำชนกับวัตถุประเภทใด หรือแม้กระทั่งตำแหน่งอุบัติเหตุแต่อย่างใด
สหรัฐฯ ละเมิดอธิปไตยทางทะเล
รายงานของกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่า การประเมินและการซ่อมแซมเบื้องต้น อยู่ในระหว่างดำเนินการ และจะมีการสอบสวนอีก 2 ครั้ง ขณะสื่อจีน, คลังสมอง และเจ้าหน้าที่ของจีน ต่างตั้งคำถามว่า มีการรั่วไหลของนิวเคลียร์หรือไม่
ถาน กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ กำลังเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อภูมิภาคนี้ ผ่านเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลจีนใต้
ทั้งนี้ จีนถือว่าปฏิบัติการดังกล่าว เป็นการละเมิดอธิปไตยทางทะเล ขณะที่สหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขาจำเป็นต้องตอบโต้การเสริมกำลังทางทหารของจีนในน่านน้ำพิพาท
ถึงเวลาสหัรฐฯ แสดงแสนยานุภาพ
“ภายใต้ ’เสรีภาพในการเดินเรือและการบิน’ กองทัพสหรัฐฯ มักส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ขั้นสูง อาทิ เรือบรรทุกเครื่องบิน, เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ และเรือดำน้ำนิวเคลียร์ เพื่อแสดงแสนยานุภาพ, ก่อปัญหาในทะเลจีนใต้ และคุกคามความมั่นคงของชาติ รวมถึงทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาครุนแรงขึ้น” ถาน กล่าว
เขายังเสริมว่า การกระทำของสหรัฐฯ ทำให้ทุกประเทศในภูมิภาคต่างไม่สบายใจ
“สหรัฐฯ ควรหยุดการลาดตระเวนในทะเล และน่านฟ้าที่อยู่ติดกับทะเลจีนใต้ รวมถึงการส่งกำลังทหารเข้าโจมตีจีน และหยุดดำเนินการสิ่งที่เรียกว่า เสรีภาพในการเดินเรือในทะเลจีนใต้” ถาน กล่าว
“ออคัส” อาจเพิ่มความรุนแรงในภูมิภาค
ถาน ยังกล่าวอีกว่า ข้อตกลงออคัส ซึ่งสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร จะจัดหาเรือดำน้ำนิวเคลียร์ให้กับออสเตรเลีย จะทำให้ความเสี่ยงในภูมิภาคนี้ ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
ข้อตกลงดังกล่าว “จะก่อให้เกิดการแข่งขันด้านอาวุธในภูมิภาค และสร้างความเสียหายต่อสนธิสัญญาการไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
พร้อมเสริมว่า “ความเสี่ยงของการรั่วไหลของนิวเคลียร์จะเพิ่มขึ้น และจะนำมาซึ่งความท้าทายที่รุนแรง ต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค” ถาน กล่าว
—————
เรื่อง: พัชรี จันทร์แรม
ภาพ: Reuters