จีนสร้าง “ปาฏิหาริย์สีเขียว” ปฏิวัติพลังงานสะอาดครั้งใหญ่ มุ่งสู่คาร์บอนเป็นศูนย์ปี 2603

นับตั้งแต่รัฐบาลจีนประกาศคำมั่นเมื่อปี 2564 ว่าจะ “ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ถึงจุดสูงสุดก่อนปี 2573” และ “บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนก่อนปี 2603” จีนได้เดินหน้าเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ด้วยการเร่งติดตั้งกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน จีนสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 10 ล้านล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี คิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั่วโลก ขณะที่การใช้พลังงานสะอาดก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดย หนึ่งในทุกสามกิโลวัตต์ชั่วโมงของไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศ มาจากฟาร์มกังหันลม แผงโซลาร์เซลล์ และสถานีไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น “ปาฏิหาริย์สีเขียว” ที่ยิ่งใหญ่และครอบคลุมที่สุดในโลก
จีนยังเป็นเจ้าของ สถานีไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ 6 แห่ง ที่ตั้งอยู่ตามลำน้ำสายหลักของแม่น้ำแยงซี ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “แนวระเบียงพลังงานสะอาด” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ช่วยเสริมเสถียรภาพด้านพลังงานให้กับพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ
ในภูมิภาคตะวันตกของจีน พื้นที่ทะเลทรายและดินแดนรกร้างได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดมหึมา ซึ่งรวมอยู่ใน 7 จาก 9 ฐานพลังงานสะอาดหลัก ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะเวลา 5 ปี ฉบับที่ 14 (ปี 2564–2568) หากนำแผงโซลาร์เซลล์ทั้งหมดที่ติดตั้งใหม่ในช่วงเวลา 5 ปีมาวางเรียงกันเป็นแนวราบ จะครอบคลุมพื้นที่เทียบเท่าสนามฟุตบอลกว่า 530,000 สนาม ขณะที่ใบพัดกังหันลมที่ติดตั้งใหม่ทั้งหมด หากนำมาเรียงต่อกัน ความยาวรวมจะทอดยาวได้จากจุดตะวันออกสุดของประเทศไปถึงจุดตะวันตกสุด และย้อนกลับมาได้อีกครั้ง
อีกหนึ่งโครงการสำคัญที่เร่งดำเนินการภายใต้แผนพัฒนา 5 ปี คือ การก่อสร้าง โครงข่ายไฟฟ้าแรงดันสูงพิเศษ (Ultra-High Voltage: UHV) ซึ่งเป็น “เส้นเลือดพลังงาน” หลักของประเทศ ปัจจุบันมีโครงการสายส่ง UHV เริ่มก่อสร้างแล้ว 19 โครงการ เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายไฟฟ้าขนาดใหญ่ระหว่างภูมิภาค ทำให้ไฟฟ้าสีเขียวจากภาคตะวันตกสามารถส่งไปยังภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศ รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าได้ถึง หนึ่งในห้า ของทั้งหมด
นอกจากนี้ แผนพัฒนาฉบับที่ 14 ยังเป็นครั้งแรกที่มีการกำหนดแนวทางสร้าง ระบบกักเก็บพลังงานรูปแบบใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีหลากหลาย เช่น ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแรงโน้มถ่วง และระบบกักเก็บพลังงานด้วยการอัดอากาศ เพื่อช่วยบริหารจัดการการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีความต้องการสูงสุด โดยเฉพาะในฤดูร้อน
จากการดำเนินการอย่างเป็นระบบ จีนสามารถสร้าง ห่วงโซ่อุตสาหกรรมพลังงานสะอาดที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในโลก ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตเทคโนโลยี การติดตั้ง การส่งจ่าย ไปจนถึงการกักเก็บพลังงาน ทั้งยังสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ คือ ให้พลังงานที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงฟอสซิลมีสัดส่วน ไม่น้อยกว่า 20% ของการใช้พลังงานทั้งหมด ภายในระยะเวลาที่กำหนด
การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของจีนจึงไม่เพียงเป็นการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว และเป็นก้าวสำคัญของประเทศมหาอำนาจที่กำลังเดินหน้าอย่างมั่นคงสู่เป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2603”
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
