รีเซต

เอกชนคาดหวังอีก 6 เดือนสถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์คลี่คลาย หลังทั่วโลกรับจัดสรรวัคซีน

เอกชนคาดหวังอีก 6 เดือนสถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์คลี่คลาย หลังทั่วโลกรับจัดสรรวัคซีน
ข่าวสด
22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:06 )
54

เอกชนคาดอีก 6 เดือนสถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์ดีขึ้น หลังทั่วโลกรับจัดสรรวัคซีน แนะรัฐผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการซ่อมตู้

 

เอกชนคาดหวังอีก6เดือน - นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่ง ประเทศไทยเปิดเผย กล่าวในการเป็นประธานการบรรยายออนไลน์ เรื่อง สถานการณ์ส่งออกสินค้าทางทะเลด้วยระบบคอนเทนเนอร์ : บริบทไทยและบริบทโลก ว่า ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ส่งผลกระทบการส่งออก นำเข้าสินค้าทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย หอการค้าไทย ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ผลักดันแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง

 

โดยปัจจุบันกรมเจ้าท่าได้ออกประกาศกรม ที่ 25/2564 เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2564 เรื่อง การกำหนดให้เรือที่มีความยาวเรือมากกว่า 300 เมตร แต่ไม่เกิน 400 เมตร เข้าเทียบท่า โดยสาระสำคัญ คือ การกำหนดแนวปฏิบัติให้เรือที่มีความยาวมากกว่า 300 เมตร แต่ไม่เกิน 400 เมตร เข้ามายังประเทศไทยครั้งแรก ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จะต้องขออนุญาตจาก กรมเจ้าท่า และเมื่อผ่านการพิจารณาแล้วไม่ต้องขออนุญาตอีกภายในระยะเวลา 2 ปีโดยมีเงื่อนไขกำหนดไว้ โดยเฉพาะการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย

 

ทั้งนี้ การออกประกาศดังกล่าว ภาคเอกชน คาดการณ์ว่าจะช่วยให้สามารถนำเรือใหญ่ที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาเทียบท่าเรือ ได้เพิ่มขึ้นประมาณ 20-30% ในเส้นทางหลัก และ จะส่งเสริมให้มีการนำตู้ฯ เปล่าเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น เดือนละประมาณ 12,000 ตู้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้าได้ นอกจากนี้ ยังจะช่วยให้ค่าระวางเรือในการขนส่งจากประเทศไทยลดลง

 

นายพิเศษ ฤทธาภิรมย์ กรรมการ บริษัท เมอส์กไลน์ ไทยแลนด์ (Maersk Line Thailand) ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางทะเลรายใหญ่ที่สุดในโลกกล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จะคงตัว และค่อยๆ คลี่คลายลง ภายในระยะเวลาประมาณ 6 เดือน โดยปลายปี 2564 สถานการณ์จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับ การจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ของแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทยก็จะเป็นปัจจัยเสริมในการช่วยคลี่คลายปัญหาดังกล่าวให้บรรเทาลง

 

สำหรับทิศทางอนาคต มองว่า ควรผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซ่อมตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อรองรับอุปสงค์และอุปทานของตู้ฯ กรณีเกิดการกระชากตัวของอุปสงค์และอุปทานตู้อีกในอนาคต นอกจากนี้ สนับสนุนแนวทางการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ด้านการขนส่งทางทะเลให้มีความสะดวกในทุกมิติเพื่อบริหารจัดการระบบการนำเข้า-ส่งออก และ การถ่ายลำที่ท่าเรือได้ต่อเนื่องและตรงเวลา

 

อย่างไรก็ดี ในอีก 2 ปีข้างหน้า จะมีการต่อเรือสินค้าเพิ่มเข้าสู่ระบบการขนส่งทางทะเลทั่วโลกอีกประมาณ 10% ซึ่งจะรองรับการขนส่งสินค้าทางทะเลด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ได้เพิ่มขึ้นเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการควรเตรียมความพร้อม ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง