TTB-KTBเกินคาด สำรองลดกำไรฟู สินเชื่อโตแข็งแกร่ง
ทันหุ้น – TTB-KTB อวดงบไตรมาส 3/2564 ดีกว่าคาด ส่วนใหญ่เกิดจากการตั้งสำรองลดลง TTB มีกำไรสุทธิ 2,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% หลังตั้งสำรองไว้ล่วงหน้าแล้วจากปีก่อน ด้าน KTB มีกำไรสุทธิ 5,054.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.4%ชูสินเชื่อเติบโตแข็งแกร่ง
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ TTB เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2564 มีกำไร 2,358.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.7% จากงวดเดียวกันปี 2563 ที่มีกำไร 1,618.90 ล้านบาท จากแรงกดดันด้านสำรองที่ลดลง เนื่องจากได้ตั้งสำรองล่วงหน้าไปแล้วในไตรมาส 3 ปีก่อน ขณะที่ช่วงที่เหลือของปียังเน้นดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ คงการตั้งสำรองในระดับสูง เพื่อเสริมสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่งในทุกด้าน ขณะที่มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 15,663 ล้านบาท ทั้งจากรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย
ขณะที่งวด 9 เดือนปี 2564 ที่มีกำไร 7,674.71 ล้านบาท ลดลง 13.5% จากงวดเดียวกันปี 2563 ที่มีกำไร 8,877.29 ล้านบาท มีรายได้จากการดำเนินงาน 48,406 ล้านบาท ลดลง 5.0% จากงวด 9 เดือนปี 2563
สำหรับภาพรวมในไตรมาส 4/2564 นั้น แม้ว่าการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จะช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่การฟื้นตัวไปสู่ระดับก่อนโควิด-19 ยังคงต้องใช้เวลา ดังนั้นจึงยังคงเน้นการดำเนินธุรกิจแบบระมัดระวังไม่สร้างความเสี่ยงด้วยการเร่งเติบโตสินเชื่อฝ่าคลื่นลมทางเศรษฐกิจ เพื่อคงสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและดีที่สุดสำหรับลูกค้าแต่ละคน พร้อมรับมือกับความเสี่ยงจากสถานการณ์โควิด-19 และรอโอกาสที่จะกลับมาเติบโตเมื่อเศรษฐกิจเอื้ออำนวย นอกจากนี้การดูแลความปลอดภัยของพนักงานก็ถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญเช่นกัน
*KTB กำไรโต 65.4%
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังเผชิญความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธนาคารและบริษัทย่อยจึงใช้หลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ โดยพิจารณาตั้งสำรอง ในระดับสูง บริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิดและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ พร้อมให้ความสำคัญกับการดูแลช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น ประคองธุรกิจให้อยู่รอดและกลับมาเติบโตได้ในระยะข้างหน้า เมื่อรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการและกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง หนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัว
โดยผลประกอบการไตรมาส 3/2563 มีกำไรสุทธิ 5,054.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,057.13 ล้านบาท จากการตั้งสำรองลดลง 34.5% และสินเชื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่งพร้อมบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิด มีรายได้รวม 28,334 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 30,274 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง
ขณะที่ 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 16,644.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13,279.16 ล้านบาท จากการตั้งสำรองลดลง 34.5% มีรายได้รวม 85,857 ล้านบาท ลดลง 8.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 93,678 ล้านบาท