กรมหม่อนไหมร่วมติดตาม-เคลื่อนนโยบาย 'เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด' และการบริหารจัดการน้ำ จ.อำนาจเจริญ
วันที่ 9 กันยายน นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมหม่อนไหม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรมหม่อนไหม ร่วมลงพื้นที่กับคณะ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ เพื่อตรวจราชการ จ.อำนาจเจริญ โดยได้เดินทางไปยังเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์อำนาจเจริญ ต.ห้วยไร่ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ตรวจเยี่ยมการขับเคลื่อนนโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตของสินค้าเกษตรอินทรีย์ จ.อำนาจเจริญ และมอบปัจจัยการผลิตตามโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาดให้แก่กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ จ.อำนาจเจริญ จากนั้น จึงเดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ จ.อำนาจเจริญ และแผนโครงการปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำของจังหวัด นอกจากนี้ ยังได้เดินทางไปที่กลุ่มแปลงใหญ่แพะ หมู่ 7 ต.นาป่าแซง อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ตรวจเยี่ยมการขับเคลื่อนนโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตของสินค้าปศุสัตว์ จ.อำนาจเจริญ
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตรวจเยี่ยมนิทรรศการแปลงใหญ่ไหมหัตถกรรมตำบลคึมใหญ่และเครือข่ายอำเภอเมือง และกลุ่มแปลงใหญ่ไหมหัตถกรรมเปือยหัวดง ต.เปือย อ.ลืออำนาจ ซึ่งมีการจำหน่ายสินค้าผ่านทางตลาดออนไลน์และศูนย์จำหน่ายสินค้ากลุ่มต่าง ๆ รวมทั้งจำหน่ายรังไหมแก่เครือข่ายเกษตรกรนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ ยังมีตลาดต่างประเทศ โดยจำหน่ายรังไหมพันธุ์ดอกบัว ซึ่งเป็นไหมพันธุ์ไทยลูกผสมที่ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ อุบลราชธานี ส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงเพื่อจำหน่ายให้แก่บริษัทญี่ปุ่นนำไปผลิตเป็นวามาตะและผ้าห่มใยไหม (Omazz) ส่งจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นด้วย
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้แนวนโยบายในการส่งเสริมวิจัยและพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์จากหม่อนและไหม ซึ่งสามารถนำมาแปรรูปได้ทุกส่วนทั้งกระบวนการผลิต ส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมตามนโยบายตลาดนำการผลิต ซึ่งทำให้เกษตรกรมีตลาดรับซื้อผลผลิตที่แน่นอนและสร้างรายได้เพิ่มเป็นอย่างดี ตลอดจนส่งเสริมการประกอบอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งเป็นอาชีพที่สร้างความผาสุกและความเข้มแข็งให้กับครอบครัวและชุมชน ทั้งสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี เศรษฐกิจที่มั่นคงและสังคมได้อย่างยั่งยืน