รีเซต

คลัง ย้ำตรวจสอบโรงแรมเข้าร่วม ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ตลอดเวลา หากพบทำผิดจริง ตัดสิทธิแน่นอน

คลัง ย้ำตรวจสอบโรงแรมเข้าร่วม ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ตลอดเวลา หากพบทำผิดจริง ตัดสิทธิแน่นอน
มติชน
10 สิงหาคม 2563 ( 03:12 )
230

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวปันสุข ในส่วนของแพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 4.76 ล้านราย ลงทะเบียนสำเร็จ 4.51 ล้านราย โดยมีผู้ประกอบการโรงแรมสนใจเข้าร่วมโครงการ จำนวน 6,815 แห่ง กระจายตัวอยู่ทั่วทุกจังหวัดในประเทศ ส่วนการจองโรงแรมที่เปิดให้ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จเข้าไปใช้สิทธิจองที่พัก เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยว นับตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ล่าสุด ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จ เข้าไปใช้สิทธิจองโรงแรมแล้ว 386,469 สิทธิ จากจำนวนสิทธิที่กำหนดไว้ไม่เกิน 5 ล้านสิทธิ และมีการจองแล้วชำระเงินให้โรงแรมกว่า 373,214 ห้อง โดยในส่วนนี้แบ่งเป็นผู้ลงทะเบียนที่เข้าใช้บริการโรงแรมที่จองไว้ ทำการเช็กอินแล้วกว่า 85,326 ห้อง และมีเช็กเอ้าท์แล้ว 79,884 ห้อง โดยจากการสำรวจพบว่า มีประชาชนเดินทางออกไปท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีมากที่สุด 14,338 ห้อง รองลงมาคือ ประจวบคีรีขันธ์ 6,497 ห้อง กรุงเทพฯ 5,261 ห้อง เชียงใหม่ 5,258 ห้อง และกระบี่ 4,626 ห้อง

 

นายลวรณ กล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ประกอบการเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมนั้น กระทรวงการคลังได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในการตรวจดูพฤติกรรมของผู้ประกอบการโรงแรม ขณะนี้พบว่ามีผู้ประกอบการที่พักขนาดเล็ก 1 แห่ง มีพฤติกรรมต้องสงสัยอาจเข้าข่ายทุจริต ในการเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยที่พักดังกล่าวมีพฤติกรรมในการรับจองห้องพักเกินกว่าจำนวนห้องพักที่มีอยู่จริง และมียอดการจองห้องพักเต็มอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งผู้เข้าพักมีประวัติการใช้อีวอชเชอร์สำหรับการซื้ออาหารในที่พัก ทั้งที่โรงแรมดังกล่าวไม่มีห้องอาหารไว้ให้บริการแก่ผู้เข้าพัก ซึ่งขณะนี้ได้ระงับการจ่ายเงินสนับสนุนค่าที่พักในสัดส่วน 40% ของราคาที่พัก และอีวอชเชอร์แล้ว โดยในระยะถัดจากนี้ หากพบว่ายังทำพฤติกรรมดังกล่าวอยู่ จะพิจารณาตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันต่อไป ในส่วนของการตรวจสอบผู้ประกอบการในระบบ ขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติเพิ่มเติม

 

“คลังกับธนาคารกรุงไทยมีการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ประกอบการอยู่ตลอดเวลา จึงยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้มีการฉวยโอกาสของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อให้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงอยากให้ทั้งผู้ลงทะเบียนและผู้ประกอบการเป็นส่วนสนับสนุนในการสร้างบรรยากาศที่ดีให้การท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่วนแพคเกจกระตุ้นท่องเที่ยวที่จะมีเพิ่มเติมออกมานั้น เบื้องต้นเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งคาดว่าน่าจะมีความชัดเจนออกมาในเร็วๆ นี้” นายลวรณ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง