รีเซต

ทรัมป์ลงนามเพิ่มค่าธรรมเนียมวีซ่า H-1B เพิ่มสูงถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ทรัมป์ลงนามเพิ่มค่าธรรมเนียมวีซ่า H-1B เพิ่มสูงถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
TNN ช่อง16
20 กันยายน 2568 ( 12:19 )
7

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งเร่งด่วนของฝ่ายบริหารเมื่อวานนี้ (19 กันยายน) ในการเรียกค่าธรรมเนียมเพิ่มสำหรับวีซ่าประเภท H-1B เป็นจำนวนเงิน 100,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3 ล้าน 1 แสนบาท ซึ่งวีซ่าประเภทดังกล่าวเป็นวีซ่าทำงานสำหรับชาวต่างชาติที่บริษัทในสหรัฐฯ จ้างให้เข้ามาทำงานในอาชีพเฉพาะทางที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะทางขั้นสูง ส่วนหนึ่งของพยายามจำกัดการให้วีซ่าแก่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะกับวีซ่าประเภทนี้ที่รัฐบาลของทรัมป์มองว่าเป็นวีซ่าที่ถูกขอใช้เข้าสหรัฐฯ มากเกินไป

ทรัมป์กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ ต้องการแรงงานที่ยอดเยี่ยม และมาตรการนี้ก็แทบจะเป็นการรับประกันได้ว่าจะเกิดขึ้นจริง ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอธิบายรายละเอียดว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นแรงจูงใจให้บริษัทต่าง ๆ จ้างแรงงานชาวอเมริกันมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงเปิดทางให้สามารถจ้างแรงงานต่างชาติที่มี “ทักษะสูง” ในสาขาเฉพาะทางได้อยู่

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ลงนามในคำสั่งแยกอีกหนึ่งฉบับเกี่ยวกับการเร่งจัดทำช่องทางตรวจคนเข้าเมืองด้วย “บัตรทอง” หรือ “Gold Card” ที่ทรัมป์เคยอ้างถึงก่อนหน้านี้ว่าจะเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติที่สนใจจ่ายเงิน  1 ล้านดอลลาร์ เพื่อแลกกับสิทธิการเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงมาตรการที่เปิดโอกาสให้นายจ้างจากบริษัทในสหรัฐฯ สามารถจ่ายเงิน 2 ล้านดอลลาร์เพื่อเร่งกระบนการออกวีซ่าสำหรับลูกจ้างชาวต่างชาติได้

ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในรัฐบาลทรัมป์ที่ต้องการกวาดล้างผู้อพยพด้วยกฎระเบียบที่เพิ่มข้อจำกัดต่าง ๆ เกี่ยวกับการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ของชาวต่างชาติ ซึ่งในกรณีของการกำหนดค่าธรรมเนียมวีซ่าประเภท H-1B ที่สูงลิ่วเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทต่าง ๆ ในสหรัฐฯ เป็นวงกว้างที่ต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติส่วนใหญ่ที่ถือครองวีซ่าประเภทนี้ โดยวีซ่า H-1B เป็นวีซ่าที่มีอายุ 3 ปีและจะสามารถต่ออายุได้อีกครั้งละ 3 ปีเท่านั้น

ด้าน ฮาวเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่าสำหรับโครงสร้างการชำระเงินวีซ่า H-1B  ยังคงอยู่ในขั้นตอนหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะเก็บค่าธรรมเนียม 300,000 ดอลลาร์ล่วงหน้า หรือเก็บปีละ 100,000 ดอลลาร์เป็นเวลา 3 ปี ลุตนิกยังวิจารณ์กระบวนการออก “กรีนการ์ด” ในปัจจุบันสำหรับผู้อพยพที่ต้องการอาศัยและทำงานในสหรัฐฯ อย่างถาวร โดยเขาให้เหตุผลว่ากระบวนการนี้ทำให้สหรัฐฯ รับแรงงานจากต่างประเทศที่อยู่ในเกรดล่างสุดของชาร์ตคุณภาพแรงงาน

อย่างไรก็ตาม ในแต่ละปีสหรัฐฯ อนุมัติวีซ่าประเภท  H-1B ราว 65,000 ใบ และมีอีก 20,000 ใบที่สำรองไว้สำหรับผู้ที่ถือปริญญาขั้นสูงจากสถาบันการศึกษาของสหรัฐฯ เท่านั้น ซึ่งหากย้อนกลับไปในช่วงหาเสียงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 ทรัมป์เคยกล่าวหาบริษัทในสหรัฐฯ เกี่ยวกับการรับแรงงานที่ถือวีซ่า H-1B ว่ามีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการแทนที่แรงงานชาวอเมริกันด้วยค่าจ้างที่ต่ำกว่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง