ยอดขาย Tesla ในนอร์เวย์พุ่งสวนตลาดโลก

“เทสลา” (Tesla) บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ชื่อดังของสหรัฐฯ เผชิญผลกระทบจากการที่ “อีลอน มัสก์” CEO ของบริษัทเข้าไปทำงานการเมืองให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ สร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนจำนวนมากจนนำไปสู่การคว่ำบาตรแบรนด์ ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป

แต่ยอดขาย “เทสลา” ใน “นอร์เวย์” ซึ่งเป็นประเทศเล็ก ๆ ในยุโรปกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสวนกระแสตลาดโลก โดยยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ขยายตัวร้อยละ 24 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทำให้ประเทศที่มีประชากร 5.5 ล้านคนแห่งนี้กลายเป็นตลาดยุโรปขนาดใหญ่อันดับ 2 ของ “เทสลา”

ขณะที่ยอดขาย “เทสลา” ในตลาดอื่น ๆ ของยุโรป อาทิ เยอรมนี สวีเดน เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ ลดลงราวครึ่งหนึ่งหรือมากกว่านั้นในช่วงเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม “นอร์เวย์” เป็นประเทศขนาดเล็ก และมีสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 12 ของยอดขายในยุโรปของ “เทสลา” ในช่วงครึ่งปีแรก และมีสัดส่วนไม่มากนักเมื่อเทียบกับรายได้ทั่วโลก 

แต่นอร์เวย์มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ต่อแบรนด์ โดยเป็นประเทศแรกนอกอเมริกาเหนือที่ได้รับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงอย่าง “โมเดล S” ในปี 2556 ซึ่งช่วยผลักดันให้นอร์เวย์กลายเป็นเมืองหลวงแห่ง EV นอกจากนี้ “เทสลา” ยังสร้างเครือข่าย Supercharger ในนอร์เวย์เป็นแห่งแรกนอกอเมริกาเหนือด้วย

ก่อนหน้านี้ “เทสลา” เคยครองตำแหน่งแบรนด์รถยนต์ชั้นนำในนอร์เวย์ และมีส่วนแบ่งตลาดระหว่างร้อยละ 11-20 แต่ความเป็นผู้นำก็ถูกท้าทายจากแบรนด์อื่น ๆ อย่าง “โฟล์คสวาเกน” ที่ขึ้นแท่นผู้นำในไตรมาสแรก ส่วน “วอลโว่” ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น เช่นเดียวกับแบรนด์รถยนต์จีน อาทิ BYD, เอ็กซ์เผิง (XPeng), SAIC มอเตอร์ และ MG