รีเซต

SFLEXขาขึ้นออเดอร์ล้นมือ ดันยอดขาย-มาร์จิ้นเกิน15%

SFLEXขาขึ้นออเดอร์ล้นมือ ดันยอดขาย-มาร์จิ้นเกิน15%
ทันหุ้น
25 สิงหาคม 2566 ( 12:40 )
98
SFLEXขาขึ้นออเดอร์ล้นมือ ดันยอดขาย-มาร์จิ้นเกิน15%

SFLEX มองไตรมาส 3/2566 ผลงานเติบโตต่อเนื่อง ลูกค้าเรียงคิวป้อนออเดอร์ใหม่ล้นมือ มั่นใจรายได้แตะ 1.8-1.85 พันล้านบาท ตามเป้า ปูพรมบุ๊กผลตอบแทนจากการร่วมทุนในเวียดนามหนุนโค้งสุดท้ายเต็มสูบ ชี้มาร์จิ้นปี 2566 ยืนเหนือกว่า 15.69% แน่ มองการบริหารจัดการต้นทุนยังทำได้ดี แม้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่รุนแรงและรวดเร็วเท่าปีก่อน

 

ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/2566 คาดว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2566 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 468.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 50.4 ล้านบาท หลักๆ เป็นผลมาจากปริมาณคำสั่งซื้อที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการขยายตลาดและฐานลูกค้าที่มากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความยั่งยืนให้มากยิ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

 

*ปีนี้ผลงานแจ่ม

 

นอกจากนี้ จากการร่วมมือกับทางบริษัท ไทยยูเนี่ยน กราฟฟิกส์ จำกัด (TUG) และการเข้าไปร่วมลงทุนในบริษัท Starprint Vietnam Joint Stock Company (SPV) ประเทศเวียดนาม กับผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่รายหนึ่งจะเป็นการยกระดับ SFLEX และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงสนับสนุนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไปในอนาคตอีกด้วย ซึ่งการลงทุนในประเทศเวียดนามคาดว่าจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามการลงทุนเข้ามาในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ได้เต็มไตรมาส

 

จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลให้มองว่ายอดขายในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะดีกว่าครึ่งแรกปี โดยปัจจุบันบริษัทยังคงมีความมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2566 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 1,800-1,850 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 1,695.75 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 55.07 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมแล้วที่ระดับ 945.83 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 91.11 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับผลกำไรของปีก่อนทั้งปี

 

"จากกลยุทธ์การขยายตลาดเชิงรุกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง ประกอบกับการมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความยั่งยืนให้มากยิ่งขึ้น เชื่อมั่นว่าช่วยผลักดันการเติบโตได้เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อมุ่งสร้างความยั่งยืนของอัตรากำไรขั้นต้นให้มั่นคงในระยะยาว สำหรับในปีนี้เรายังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้แตะที่ระดับ 1.8-1.85 พันล้านบาท ในแง่ของอัตรากำไรแน่นอนว่าในปีนี้ทำได้ดีกว่าปีก่อน ดูได้จากครึ่งปีแรกที่ทำได้กว่าปีก่อนทั้งปีแล้ว" ดร.สมโภชน์ กล่าว

 

**ต่อยอดดีลใหม่

 

ในเรื่องของต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบนั้น แม่ว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มการปรับตัวที่เพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่รุนแรงและทะยานขึ้นรวดเร็วเหมือนอย่างปีก่อน ทำให้คาดว่าการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนการผลิตยังคงทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจากคำสั่งซื้อใหม่ๆ ที่มีเข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องยังช่วยให้บริษัทมีการประหยัดจากขนาด (Economies of Scale) ที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย สะท้อนต่อแนวโน้มการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิที่ดีขึ้นในปีนี้ ซึ่งครึ่งแรกปีที่ทำได้ 15.69% และ 8.68% ตามลำดับ

 

ขณะเดียวกันบริษัทยังสนใจลงทุนในธุรกิจที่ยังคงเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างความเติบโตที่แข็งแกร่งมากขึ้นในอนาคต ปัจจุบันบริษัทมีดีลที่อยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจากับพันธมิตรที่มีศักยภาพอยู่ 2-3 ราย ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นผู้ผลิตซองบรรจุภัณฑ์ ที่มีทั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยี ส่วนอีกรายมีกำลังการผลิตที่มีขนาดใหญ่ และอีกรายหนึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสุขภาพ เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนต้นปี 2567 อย่างน้อย 1 ดีล

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง