รีเซต

‘พิธา’ประกาศสานต่ออนาคตใหม่ ปลุกเลือกก้าวไกลให้เต็มสภา รื้อปัญหาเชิงโครงสร้าง

‘พิธา’ประกาศสานต่ออนาคตใหม่ ปลุกเลือกก้าวไกลให้เต็มสภา รื้อปัญหาเชิงโครงสร้าง
มติชน
30 เมษายน 2565 ( 15:33 )
97
‘พิธา’ประกาศสานต่ออนาคตใหม่ ปลุกเลือกก้าวไกลให้เต็มสภา รื้อปัญหาเชิงโครงสร้าง

ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 เมษายน ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จัดประชุมสามัญใหญ่ประจำปี 2565 โดยในช่วงบ่ายเป็นเวที “เปลี่ยนประเทศไทย ก้าวไกลทั้งแผ่น” เปิดนโยบายเรือธงพรรค ก.ก. ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง

 

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ก.ก. กล่าวตอนหนึ่งว่า เป็นการประชุมที่ต่อเนื่องจากการประชุมที่จ.ขอนแก่น จากวิถีก้าวไกล มาเป็นวิสัยทัศน์ก้าวไกล เพื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้งของพรรค ก.ก. วิสัยทัศน์สำหรับตนคือการมองไปข้างหน้า กำหนดจุดเป้าหมาย และย้อนมาที่จุดแข็งและภารกิจ ของพรรค และประเทศ วิสัยทัศน์ที่ดี คือ มีความชัดเจน มีความท้าทาย มีพลังในตัวเอง และมีความเป็นไปได้ สถานการณ์ที่ไทยกำลังเจออยู่ตอนนี้ ไม่ได้ทำให้วิสัยทัศน์ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ เมื่อปี 2561 จืดจางลงแม้แต่นิดเดียว แต่กลับเข้มข้นมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะยังยึดมั่นใน 3 รากฐาน 8 เสาหลัก และ 1 ปัก ธงประชาธิปไตย ที่ยังมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้เป็นอย่างดี และพรรค ก.ก. ยังคงเร่งทำงานขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

 

 

นายพิธา กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่ชั้นนำ ผู้มีอำนาจ และเผด็จการได้รับจากการยุบอดีตพรรคอนาคตใหม่ เขายุบพรรคอนาคตใหม่ไป ได้พรรคก.ก. มา กลายเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับเงินบริจาคจากประชาชนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เหมือนคำพูดที่บอกว่า คุณเด็ดดอกไม้ได้ แต่หยุดฤดูใบไม้ผลิไม่ได้ เรามากันไกลเกินกว่าที่จะแพ้ และมีภารกิจในอนาคตที่ต้องไปต่อมากมาย เราอยู่ในภาวะไตรวิกฤต ทั้งโรคระบาด เศรษฐกิจ และความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เข้มข้นที่สุดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาอยู่ที่หน้าบ้าน หน้าโรงงาน และหน้าโรงเรียนของลูกหลานเรา อีก 20 ปียังมีวิกฤตทางสิ่งแวดล้อม และสังคมสูงวัย ฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องพูดถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง แต่จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด คำตอบไม่สำคัญเท่าคำถาม ตนเชื่อว่าทุกการเลือกตั้งมีคำถามของสังคมซ่อนอยู่เสมอ และผลของการเลือกตั้ง คือคำตอบที่เป็นฉันทามติของสังคม

 

ย้อนหลังในการเลือกตั้งเมื่อปี 2544 คำถามคือ การฟื้นจากวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2554 คำถามคือ การทวงคืนความยุติธรรมให้คนเสื้อแดง และปี 2562 คำถามคือ การยุติระบอบเผด็จการสืบทอดอำนาจ และประชาชนได้ตอบคำถามผ่านคูหาเลือกตั้งไปแล้ว ส่วนการเลือกตั้งในปีที่จะถึงนี้ คำถามคือ เราจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้อยู่รอดในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร และนั่นคือที่มาของคำว่า เปลี่ยนประเทศไทย ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน สำหรับตนนี่คือ คำที่การกลั่นกรองมาจากวิสัยทัศน์ จุดยืนประเทศไทยเวทีโลก ที่ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีกระดูกสันหลังพอจะไปยุ่งกับโลก แต่โลกจะมายุ่งกับเรา เราต้องขับเคลื่อนประเทศด้วยประสบการณ์ ข้อมูล การร่วมมือการทำงานอย่างหนัก และเข้าใจว่าประชาชนคิดอย่างไร เราต้องเลือกส.ส.พรรค ก.ก. ให้เต็มสภาฯ และให้เป็นพรรคใหญ่ของสภาฯ เพื่อให้การยกเลิกเกณฑ์ทหารทำได้ทันที ให้การสมรสเท่าเทียมทำได้ทันดี สุราก้าวหน้าทำได้ทันที และรัฐสวัสดิการทำได้ทันที ซึ่งไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลง เพราะไม่พอใจของเก่า แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้ประเทศไทยทั้งองคาพยพอยู่รอดได้ในศตวรรษที่ 21

 

 

“ผมอยากให้ทุกท่านวาดภาพดูว่า คนๆ นี้พอจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของท่านได้หรือไม่ เพราะประเทศไทยจะรอดได้ต้อง จากกระจายเป็นกระจุก คือกระจายทั้งอำนาจ งบประมาณ บุคลากร และโอกาสการเก็บภาษีไปสู่ท้องถิ่น จากบนลงล่างเป็นจากล่างขึ้นบน คือ การทลายทุนผูกขาด และจากในไปนอกเป็นนอกเข้าใน เช่น วัฒนธรรม กฎหมาย และสิทธิมนุษยชน เป็นต้น ที่ต้องนำจากข้างนอกเข้ามา เพราะเราไม่สามารถส่งต่อประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนแบบไทยๆ ไปให้ข้างนอกได้ นี่คือการกำหนดรัฐบาลแบบก้าวไกล ที่จะสามารถกู้ศักดิ์ศรีประเทศในเวทีโลกได้ด้วยวิธีการเช่นนี้ นี่คือคำขอร้อง โดยอยากให้ทุกคนในที่นี้ได้ออกไปบอกประชาชนทุกคนว่านี่คือฉันทามติใหม่ของประเทศ คือวิถีก้าวไกล และวิสัยทัศน์ก้าวไกล” นายพิธา กล่าว

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง