ปีใหม่ 2568 คมนาคมพร้อมรับประชาชนเดินทางกลับด้วยความสะดวก ปลอดภัย
กระทรวงคมนาคม เปิดเผยตัวเลขภาพรวมการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 1 มกราคม 2568 โดยทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมมือร่วมใจอำนวยความสะดวกและให้บริการการเดินทางประชาชนอย่างเต็มกำลัง ซึ่งช่วง 6 วันที่ผ่านมาพบว่า สามารถบริหารจัดการเดินทางไป - กลับภูมิลำเนาได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง
ทั้งนี้ จากข้อมูลศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม สรุปสถิติอุบัติเหตุบนโครงข่าย ของกระทรวงคมนาคม ในวันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 1 มกราคม 2568 (สะสม 6 วัน) ณ วันที่ 2 มกราคม 2568 เวลา 07.30 น. พบว่า ทางบกเกิดอุบัติเหตุรวม 1,243 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 195 คน ผู้บาดเจ็บ 1,565 คน สาเหตุจากขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด 888 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 61.97 ยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด คือ จักรยานยนต์ 783 คัน บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุด คือ ทางตรง ไม่มีความลาดชัน 997 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 69.57
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ นนทบุรี ปทุมธานี และอุดรธานี จังหวัดละ 6 คน โดยจังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 39 ครั้งทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน อุบัติเหตุลดลง ร้อยละ 4.97 ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 21.88 และผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.90 นอกจากนี้ พบอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางราง 2 ครั้ง และทางน้ำ 1 ครั้ง ส่วนทางอากาศไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ
กระทรวงคมนาคม ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนาให้มีความสะดวก ปลอดภัย และบริหารจัดการการเชื่อมต่อล้อ - ราง - เรือ ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยกรมทางหลวงชนบทได้บำรุงรักษาเส้นทาง สำรวจไฟฟ้าแสงสว่างและไฟสัญญาณจราจรให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้บริการประชาชน 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง ช่องทางบริการให้ข้อมูลข่าวสาร และจุดบริการประชาชนผ่านศูนย์ปลอดภัยคมนาคม สายด่วน 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของกรมทางหลวงได้เปิดช่องทางพิเศษขาเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเร่งระบายรถเนื่องจากพบว่าสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพและทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 (M6) ในวันที่ 1 มกราคม 2568 มีปริมาณรถหนาแน่น โดยเฉพาะบนถนนมิตรภาพช่วงมวกเหล็ก - ปากช่อง จึงได้ดำเนินการ เปิดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) บนถนนมิตรภาพช่วง กม. ที่ 60 - 67 54 - 46 และ 40 - 17 เพื่อระบายรถ ขาเข้า และปิดทางเข้า M6 บริเวณด่านสีคิ้ว ขาเข้ากรุงเทพฯ เป็นการชั่วคราว ในวันที่ 1 - 2 มกราคม 2568 เพื่อกระจายปริมาณการจราจรฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ไปใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ ทางหลวงหมายเลข 2 ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลสภาพการจราจร เส้นทางและข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ โดยรถโดยสารที่จะเข้าส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 ทุกคัน จะจอดส่งผู้โดยสารที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประตู 3 เพื่อให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีแดง รถเมล์ และรถแท็กซี่ได้สะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพจัดรถโดยสารเข้าจอดรับ - ส่ง บริการประชาชนในสถานีขนส่งหมอชิต 2 และเพิ่มการจัดคิวให้บริการแท็กซี่เพื่อความสะดวกและเป็นระเบียบ ไม่แออัด และได้บูรณาการร่วมกับกรมการขนส่งทางบกในการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถก่อนเดินทางทุกคันทุกคนตาม Checklist และจุด Checking Point เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการสถานีขนส่งและจุดจอดทุกแห่ง ตรวจความพร้อมของรถและความพร้อมของผู้ขับรถก่อนออกเดินทาง
ในส่วนของกรมการขนส่งทางราง ได้มีการประสานงานไปยังผู้ให้บริการระบบรางต่าง ๆ เพื่อดำเนินการรองรับการเดินทางของประชาชนเที่ยวกลับ ซึ่งคาดการณ์ว่าตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 ประชาชนจากภูมิภาคต่าง ๆ จะเริ่มทยอยกลับจากภูมิลำเนา ประกอบกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พบว่า บรรยากาศของผู้โดยสารตามสถานีปลายทางในเส้นทางสายเหนือ สายใต้ สายตะวันออกเฉียงเหนือ
ขณะนี้เริ่มมีผู้โดยสารทยอยกลับเข้ากรุงเทพฯ รฟท. จึงได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ ตามจุดต่าง ๆ สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาต่อรถที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก เช่น รถไฟฟ้า รถแท็กซี่ หรือรถประจำทาง โดยจุดต่อรถประจำทางบริเวณประตู 3 4 5 และ 10 จุดบริการรถแท็กซี่จะอยู่บริเวณประตู 7 และ 8 ซึ่งมั่นใจว่าสามารถรองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ ช่วงหลังวันปีใหม่ 2568 ได้อย่างราบรื่นและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
ภาพจาก TNN ONLINE