“นิวยอร์ก” ผุดโครงการเปลี่ยน “ขยะอาหาร” เป็นปุ๋ย ลดการปล่อยก๊าซก่อโลกร้อน

มหานครนิวยอร์ก เมืองที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา กำลังเดินหน้าโครงการนำขยะอินทรีย์ริมทาง ทั้งขยะเศษอาหารและกิ่งไม้ใบหญ้า มาเปลี่ยนให้กลายเป็นวัตถุดิบสำคัญอย่าง “ทองคำดำ” หรือ “Black Gold” หรือ "ปุ๋ยหมักคุณภาพสูง" เพื่อช่วยรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการผลิตเป็นปุ๋ยหมักชั้นเยี่ยม ที่สามารถนำไปใช้ทั่วทั้งเมือง เพื่อปรับปรุงสุขภาพของดิน
โครงการแยกขยะอินทรีย์เพื่อนวัตกรรมปุ๋ย
โครงการเก็บขยะอินทรีย์ของมหานครนิวยอร์ก ซึ่งจะครบรอบหนึ่งปีในเดือนตุลาคม 2025 ได้เริ่มดำเนินการอย่างเต็มกำลัง ที่โรงงานปุ๋ยหมักสแตเทนไอแลนด์ (Staten Island) โรงงานแห่งนี้ สามารถรับขยะอินทรีย์ได้ถึง 100-150 ตันต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 250 ตันในช่วงฤดูที่มีเศษใบไม้มาก
กระบวนการผลิต เริ่มต้นด้วยการนำเศษอาหารและขยะจากสวนมาบด คัดแยก และนำเข้าสู่กองหมัก ซึ่งจะควบคุมความร้อนภายในกองหมักให้สูงกว่า 37.8 องศาเซลเซียส เพื่อให้เพียงพอที่จะทำลายเชื้อโรคและเมล็ดวัชพืช จากนั้นจุลินทรีย์ที่เกิดขึ้น จะทำหน้าที่ย่อยสลายวัสดุเหล่านี้ตลอดหลายสัปดาห์ จนได้เป็นผลิตภัณฑ์สุดท้าย กลายเป็นปุ๋ยหมักสีเข้ม ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร
แจกจ่ายปุ๋ยหมักเพื่อการใช้ประโยชน์ทั่วเมือง
ปุ๋ยหมักที่ผลิตได้ จะถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย โดยทางเมืองได้นำไปขายให้กับนักจัดสวน และแจกจ่ายส่วนที่เหลือให้กับประชาชน โรงเรียน และสวนสาธารณะในชุมชนฟรี โดยในปีที่ผ่านมามีการแจกจ่ายปุ๋ยไปแล้วเกือบ 2,730 ตัน ปุ๋ยเหล่านี้ช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน และส่งเสริมพื้นที่สีเขียวในเมืองให้สมบูรณ์ขึ้น
ข้อมูลจากสภาป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ (NRDC) ระบุว่า เศษอาหารและขยะจากสวน เป็นขยะครัวเรือนที่มีสัดส่วนมากที่สุดในสหรัฐฯ และเมื่อนำไปฝังกลบจะปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพสูง โครงการทำปุ๋ยหมักนี้ จึงเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศได้
อย่างไรก็ตาม ทางสภาป้องกันทรัพยากรธรรมชาติเตือนว่า แม้การทำปุ๋ยหมักจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดี แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการลดปริมาณขยะตั้งแต่ต้นทาง เพราะชาวอเมริกันทิ้งอาหารมากถึงร้อยละ 40 ของอาหารที่ผลิตได้ในแต่ละปี ทำให้กลายเป็นขยะที่ส่งผลเสียต่อโลกได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
