รีเซต

รวบชาวเมียนมา เจ้าของเบอร์ที่ส่งข้อความเรียกค่าไถ่พ่อผู้ช่วย ส.ส.ระนอง แล้ว ลูกผู้ตายชี้เรื่องนี้โหดร้ายมาก

รวบชาวเมียนมา เจ้าของเบอร์ที่ส่งข้อความเรียกค่าไถ่พ่อผู้ช่วย ส.ส.ระนอง แล้ว ลูกผู้ตายชี้เรื่องนี้โหดร้ายมาก
มติชน
11 กรกฎาคม 2565 ( 13:33 )
124

รวบชาวเมียนมา เจ้าของเบอร์ที่ส่งข้อความเรียกค่าไถ่พ่อผู้ช่วย ส.ส.ระนอง แล้ว ลูกผู้ตายตั้ง 3 ประเด็น ขอ ตร.เร่งคลี่คลาย เรื่องนี้โหดร้ายเกิน

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพบศพ นายทนุ ใจดี อายุ 78 ปี ชาว ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง ที่บ่อน้ำในสวนยางพาราข้างบ้านพักช่วงสายวานนี้ (10 ก.ค. 65) ทั้งนี้ นายทนุเป็นบิดา นายธวัช ใจดี ผู้ช่วย ส.ส.ระนอง และ นางนฤมล บุญช่วย นายก อบต.ปากจั่น หลังจากมีข้อความจากโทรศัพท์ของชาวเมียนมา ชื่อ นายไซโอเล็ต หมายเลข +668-0734-0656 ส่งมาหาหลานชายนายทนุ ระบุว่าจับตัวนายทนุไว้ พร้อมเรียกค่าไถ่เป็นเงินหลักล้านบาทนั้น

 

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายชาวเมียนมาคือ นายไซโอเล็ต ตามชื่อที่ลงทะเบียนในโทรศัพท์มือถือได้ที่ จ.พังงา และจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นสามีภรรยาชาวไทย รวม 2 คน ที่อยู่ใกล้กับสวนผู้ตาย รวมถึงนำตัวแรงงานต่างด้าวบริเวณโดยรอบมาที่ สภ.ปากจั่น เพื่อทำการสอบสวน ขณะที่ญาติรอรับศพนายทนุจาก รพ.ระนอง เพื่อเตรียมจัดงานศพที่บ้านหาดตุ่น ต.จ.ป.ร. อ.กระบุรี จ.ระนอง

 

นางนฤมล บุญช่วย นายก อบต.ปากจั่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 3 ประเด็น 1.เรื่องชู้สาว เนื่องจากมีคนพบเห็นหญิงสาวเดินเข้าไปหาพ่อที่บ้าน ตอนนี้ตำรวจ สภ.ปากจั่น ได้ควบคุมตัวไว้แล้วพร้อมสามี 2.ชิงทรัพย์ แต่พ่อไม่มีเงินสดติดตัวมาก มีไม่เกิน 5 พันบาท และวันเกิดเหตุจะมีเพียง 2 พันบาทเท่านั้น เพราะทุกครั้งที่ขายยางได้พ่อจะแบ่งส่วนแบ่งให้กับแรงงานทันที ไม่มีติดค้าง ส่วนที่เหลือจะนำมาไว้ที่ตนทั้งหมด

 

นางนฤมลกล่าวว่า 3.เรื่องการเรียกค่าไถ่ก็น่าจะเป็นได้ เพราะเขารู้กันว่าพ่อไม่เก็บเงินไว้ที่ตัว แต่จะเอาไว้ที่ลูก จึงมีการเรียกค่าไถ่ แต่พ่อเป็นคนไม่ยอมคน และตนคิดว่าพ่อน่าจะมีการต่อสู้ แต่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนเรื่องความเกี่ยวข้องของชาวเมียนมาเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ที่เจรจาเรียกเงิน ซึ่งเป็นคนนอกพื้นที่ กับแรงงานหญิงชาวเมียนมาในสวนใกล้เคียงที่ให้ข้อมูลเท็จเรื่องที่มีคนมารับพ่อออกไป ตอนนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดออกไป

 

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องโหดร้ายมาก และรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนหาความจริง และได้ตัวคนร้ายให้เร็วที่สุดด้วย” นางนฤมลกล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง