ส.อ.ท. เพิ่มเป้ายอดผลิตรถปีนี้แตะ 1.68-1.69 ล้านคัน หลังพ.ย. ทุบสถิติในรอบ 12 เดือน

ส.อ.ท. เพิ่มเป้าผลิตรถ - นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ทาง ส.อ.ท. มั่นใจยอดผลิตรถยนต์ปีนี้ ผลิตได้ 1,680,000-1,690,000 คัน เกินกว่าเป้าหมายเดิมคาดว่าผลิตได้ 1,600,000 คัน ส่วนปี 2565 คาดว่ายอดผลิตรถยนต์รวมจะผลิตได้ 1,700,000-1,800,000 คัน แบ่งเป็นยอดผลิดเพื่อส่งออก 900,000-950,000 คัน และเป็นยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 800,000-850,000 คัน

ทั้งนี้ การปรับประมาณการเพิ่มขึ้นเป็นผลจากยอดผลิตรถยนต์เดือนพ.ย. 2564 ผลิดได้ 165,353 คัน ที่แม้จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.12% แต่สูงสุดในรอบ 12 เดือน แบ่งเป็นยอดผลิตเพื่อส่งออกถึง 90,112 คัน เพิ่มขึ้น 17.15% คิดเป็นสัดส่วน 54.50% ของยอดผลิตรถยนต์ และเป็นยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 75,241 คัน ลดลงจากปีก่อน 21.24% คิดเป็นสัดส่วน 45.50% ของยอดการผลิตทั้งหมด

ทั้งนี้ สอดคล้องกับยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนพ.ย. 2564 อยู่ที่ 98,829 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 32.60% มูลค่าการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 57,737.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.30% สูงสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องการส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้นทุกตลาด เพราะประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะที่ส่งออกไปกว่า 100 ประเทศ จึงส่งออกได้เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกทั้งรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์และอะไหล่รถยนต์ ส่งออกเพิ่มขึ้นตามการผลิตรถยนต์ที่เติบโต

ขณะที่ ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพ.ย. 2564 อยู่ที่ 71,716 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.2% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 11.25% สูงสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากประชาชนเชื่อมั่นรายได้ในอนาคตมากขึ้นจากการผ่อนคลายการล็อกดาวน์เพิ่มขี้นต่อเนื่อง การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นคนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ เราเที่ยวด้วยกันเป็นต้น รวมถึงการเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และการ ส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าสำคัญที่เติบโต ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น

โดยภาพรวมยอดผลิตรถยนต์ 11 เดือน(ม.ค.-พ.ย. 2564) อยู่ที่ 1,531,337 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.26% แบ่งเป็นยอดผลิตเพื่อส่งออก 878,938 คัน เพิ่มขึ้น 34.85% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 11 เดือนอยู่ที่ 857,887 คัน เพิ่มขึ้น 28.55% มูลค่าการส่งออก 500,159.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.56% ส่วนยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 652,399 คัน เพิ่มขึ้น 3.19% ขณะที่ยอดขายในประเทศอยู่ที่ 668,520 คัน ลดลงจากปีก่อน 2.8%