รีเซต

วิจัยพบ "ยามาซิทินิบ" รักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระดับปานกลาง-รุนแรง

วิจัยพบ "ยามาซิทินิบ" รักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระดับปานกลาง-รุนแรง
TNN ช่อง16
21 กรกฎาคม 2564 ( 20:12 )
140

วันนี้ (21 ก.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานวิจัยของมหาวิทยาลัยชิคาโก ค้นพบ "ยามาซิทินิบ" (Masitinib) บรรเทาโรคไขข้ออักเสบ เป็นอีกทางเลือกในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระดับปานกลางและรุนแรง ลดการอักเสบของทางเดินหายใจและปรับปรุงการทำงานของปอด หลังผลศึกษาพบว่า มีฤทธิ์ต้านการยับยั้งและแบ่งตัวของไวรัส ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนกับสมุนไพรฟ้าทะลายโจร หรือ ชาผู่เอ๋อร์และชาดำ ต่างก็มีสรรพคุณในการยับยั้งการแบ่งตัวและขยายพันธุ์ของไวรัส  

ไวรัสนั้นมีชีวิตอยู่ด้วยตัวเองไม่ได้ แต่จะต้องบุกรุกเข้าไปในเซลล์ของมนุษย์หรือสัตว์ ไวรัสจะ "มีชีวิต" ได้ก็ต้องมี "เจ้าภาพ" (host) ไวรัสจึงจะสามารถนำเอาทรัพยากรที่อยู่ในเซลล์ของเจ้าภาพไปใช้แบ่งตัวและแพร่ขยายตัวเองได้


และพบว่าไวรัส SARS-CoV 2 หรือโควิด-19 มีโปรตีนเอนไซม์ที่ชื่อว่า 3CLpro (3-chymotrypsin-like cysteine protease) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เชื้อไวรัสใช้ในขั้นตอนการแบ่งตัว เพื่อเพิ่มจำนวนไวรัสเมื่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์แล้ว และเอนไซม์นี้มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพของตัวไวรัส ซึ่งปัจจุบันยาที่มีนำมาใช้รักษาหรือกำลังคิดค้น ก็เป็นยาที่มีกลไกการออกฤทธิ์มุ่งเป้าไปยับยั้งเอนไซม์ตัวนี้เช่นกัน 


ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้พบ "ยามาซิทินิบ" (Masitinib) ที่ใช้บรรเทาโรคไขข้ออักเสบ มีศักยภาพในการใช้รักษาโรคโควิด-19 ได้ โดย Dr.Nir Drayman นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก ในสหรัฐ รายงานผลศึกษา ที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ Science เผยข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยามาซิทินิบ มีการทดลองในหนูที่ติดเชื้อ SARS-CoV-2 และได้รับการรักษาด้วยยามาซิทินิบพบว่ามีการลดระดับของไวรัสในปอดและจมูกน้อยกว่า 200 เท่า

ตลอดจนพยาธิสภาพของปอดโดยรวมดีขึ้น และลดระดับไซโตไคน์ (cytokines) ที่ทำให้เกิดการอักเสบลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยรวมแล้วช่วยลดปริมาณไวรัสในหนูอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 99% ในช่วงในวันที่ 6 

และที่น่าแปลกยามาซิทินิบ ยังมีประสิทธิภาพในหลอดทดลอง เทียบกับตัวแปรที่สนใจในการทดสอบทั้งหมด ซึ่งรวมถึงตัวแปรไวรัสอัลฟ่า เบต้า และแกมม่าที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ผลการศึกษาพบว่ายามาซิทินิบ มีฤทธิ์ต้านโคโรนาไวรัสหลายชนิด ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์โปรตีเอส 3CL เป็นการตัดวงจรการแบ่งตัวของไวรัส   

ดังนั้น คุณสมบัติต้านไวรัสและต้านการอักเสบของยามาซิทินิบอาจเป็นประโยชน์สำหรับการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ในทันทีและหลังการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ควรมีการศึกษาเพิ่มเติม อนาคตกำลังทดลองทางคลินิกระยะที่ 2 กับคนไข้จริง เพื่อตรวจประสิทธิภาพและผลข้างเคียง 

ปัจจุบันนักวิจัย มีการคัดเลือกสารธรรมชาติเพื่อสกัดเป็นยารักษาโรคโควิด-19 โดยมุ่งไปที่การยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส เนื่องจากการจะฆ่าไวรัสทำได้ยาก ซึ่งพบว่า ชาผู่เอ๋อร์และชาดำ มีสาร 2 ชนิดที่สามารถยับยั้ง 3CL (Pro) คือกรดแทนนิก (Tannic Acid) และสารธีอะเฟลวิน (Theaflavin) ซึ่งสารดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโพลีฟินอล (polyphenols) มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติเด่นในการต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัสต่างๆ ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวและเติบโตของไวรัสไข้หวัดได้ จึงอาจให้ผลในทำนองเดียวกันกับไวรัส SARS-COV2 ที่ทำให้ป่วยเป็นโควิด-19 ได้เช่นกัน 

นอกจากนี้ ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรไทยใช้กันอย่างแพร่หลายมานานกว่า 2,000 ปีแล้วในทวีปเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังช่วยบรรเทาอาการจากการเป็นไข้หวัดได้จริง และยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นไข้หวัดลงไปครึ่งหนึ่ง เนื่องจากไข้หวัดก็เกิดจากไวรัส เนื่องจากมีสารสำคัญที่สกัดจากฟ้าทะลายโจรที่มีสรรพคุณในการยับยั้งการแบ่งตัวและขยายพันธุ์ของไวรัสคือสารแอดโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) แต่ยังไม่มีงานวิจัยเพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ได้ชัดเจน

อย่างไรก็ดี การชะลอการแบ่งตัวของไวรัสนั้นย่อมจะเป็นประโยชน์ในการบรรเทาอาการของโรคและให้เวลากับระบบ


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง