รีเซต

กนง. มีมติคงดอกเบี้ยที่ 0.75% แต่ยังมองศก.ไทยมีความเสี่ยงจากโควิด-19

กนง. มีมติคงดอกเบี้ยที่ 0.75% แต่ยังมองศก.ไทยมีความเสี่ยงจากโควิด-19
TNN ช่อง16
25 มีนาคม 2563 ( 14:28 )
39
กนง. มีมติคงดอกเบี้ยที่ 0.75% แต่ยังมองศก.ไทยมีความเสี่ยงจากโควิด-19

        วันนี้ ( 24 มี.ค.63 ) นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 25 มีนาคม 2563 ว่า   คณะกรรมการฯ มีมติ 4 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.75 ต่อปี 

       โดย การระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 2563 มีแนวโน้มหดตัวแรงจากปีก่อน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มติดลบ   อย่างไรก็ดี   ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ ตลาดการเงินได้เริ่มกลับมาทำงานปกติ นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ เห็นว่าการระบาดของ COVID-19 ในระยะข้างหน้ายังมีความรุนแรง   รวมทั้งจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าที่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ   ซึ่งในการประชุมนัดพิเศษที่ผ่านมา    คณะกรรมการฯ เห็นพ้องว่า     ต้องให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาสภาพคล่องให้ตรงจุด    กรรมการส่วนใหญ่จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้    อย่างไรก็ดี กรรมการ 2 ท่านเห็นว่า  ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกร้อยละ 0.25 เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มหดตัวแรง

        ทั้งนี้ มองว่า  เศรษฐกิจไทยในปี 2563 มีแนวโน้มหดตัวแรง  เนื่องจากการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้าได้รับผลกระทบรุนแรงจากการระบาดของ COVID-19   การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า    และการหยุดชะงักของห่วงโซ่การผลิตในหลายประเทศ     ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจและครัวเรือนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างขึ้น     เป็นผลให้อุปสงค์ภายในประเทศทั้งการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มหดตัว     ดังนั้น มาตรการด้านการคลังจะต้องเป็นกลไกหลัก   ในการบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจ     และดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19  รวมทั้ง  มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงิน    จะช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกหนี้   และช่วยให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มกลับมาขยายตัวในปี 2564   หากสถานการณ์การระบาดคลี่คลายลง    ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2563    มีแนวโน้มติดลบตามราคาพลังงานที่ลดลง    และเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มหดตัว

        ด้านเสถียรภาพของตลาดการเงินไทย   โดยเฉพาะตลาดตราสารหนี้ปรับดีขึ้นหลัง ธปท. ออกมาตรการสนับสนุนสภาพคล่องในตลาดการเงิน    แต่ยังต้องติดตามพัฒนาการอย่างใกล้ชิด   ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดลง   หลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่านมา    ซึ่งมีส่วนช่วยลดภาระดอกเบี้ยของลูกหนี้    ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าคู่แข่ง     โดยเฉพาะสกุลเงินหลักและมีแนวโน้มผันผวน  ขณะที่เสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทย  ยังอยู่ในเกณฑ์เข้มแข็งสะท้อนจากเงินสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง  

        แต่ในด้านระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ ธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) มีระดับเงินกองทุนและเงินสำรองที่ เข้มแข็ง อย่างไรก็ดี ต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนและธุรกิจ SMEs ที่อาจด้อยลงในช่วงที่เศรษฐกิจหดตัวแรง 

        ทั้งนี้  ทุกฝ่ายต้องมองไปข้างหน้า คณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ โดยเฉพาะผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 เพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไป  

 

 

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง