รีเซต

14จว.เฮ “นกแอร์-แอร์เอเชีย-ไทยไลอ้อนแอร์-ไทยเวียตเจ็ท” บินลง 14 สนามบินวันนี้

14จว.เฮ “นกแอร์-แอร์เอเชีย-ไทยไลอ้อนแอร์-ไทยเวียตเจ็ท” บินลง 14 สนามบินวันนี้
มติชน
1 พฤษภาคม 2563 ( 10:42 )
140
14จว.เฮ “นกแอร์-แอร์เอเชีย-ไทยไลอ้อนแอร์-ไทยเวียตเจ็ท” บินลง 14 สนามบินวันนี้

นายทวี เกศิสำอาง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) กล่าวว่าตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 สายการบินได้ขอกลับมาให้บริการในเส้นทางบินภายในประเทศแก่ผู้โดยสารที่มีความจำเป็นในการเดินทาง จำนวน 4 สายการบิน ได้แก่ สายการบินนกแอร์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินไทยเวียตเจ็ท

โดยเปิดให้บริการ ณ ท่าอากาศยานของกรมท่าอากาศยาน จำนวน 14 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานลำปาง แม่สอด พิษณุโลก บุรีรัมย์ สกลนคร นครพนม ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และกระบี่

ทั้งนี้กรมพร้อมให้บริการผู้โดยสาร ตามแนวทางปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสารในเส้นทางการบินในประเทศในระหว่างสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(COVID-19) ในประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ซึ่งมีข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องให้ผู้ดำเนินการสนามบินดำเนินการ ดังนี้

1.ทำการคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หากผู้บุคคลนั้นไม่ปฏิบัติตาม หรือวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส ทางท่าอากาศยานและสายการบินจะปฏิเสธการให้บริการและเดินทางโดยเครื่องบินได้

2.ต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เช่น จุดรับรอรับกระเป๋าสัมภาระ จุดตรวจบัตรโดยสาร (Check – in counter) ที่นั่งรอก่อนการเดินทาง โดยให้มีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร

สำหรับในส่วนของกรมได้เตรียมความพร้อมให้บริการเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นอกเหนือจากที่ กพท.ออกประกาศ รวมถึงการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานที่เกิดประโยชน์กับผู้โดยสารและสอดคล้องกับแนวนโยบายของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดังนี้

1.ผู้โดยสารขาเข้าทุกคนจะต้องดำเนินการกรอกแบบสำรวจการเดินทาง (ต.8 คค.) หรือแบบฟอร์มของสาธารณสุขจังหวัด ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเก็บข้อมูลในการเดินทาง

2.ดำเนินการติดแผ่นใสกั้นบริเวณเคาน์เตอร์ระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของท่าอากาศยาน สายการบิน กับผู้โดยสาร เพื่อเว้นระยะห่าง

3.จัดเจ้าหน้าที่พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารก่อนจุดรับกระเป๋าทุกเที่ยวบิน.

4.เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ได้แก่ หน้ากากอนามัย ถุงมือ อุปกรณ์ป้องกันใบหน้าและดวงตา (Face shield) เพื่อเลี่ยงการสัมผัสกับผู้โดยสาร

5.ตั้งจุดบริการเจล แอลกอฮอล์ล้างมือตามจุดต่าง ๆ

6.อนุญาตให้ขายอาหารภายในท่าอากาศยานได้ แต่ไม่ให้มีการนั่งรับประทานภายในร้าน และการกำหนดจุดยืนรอรับอาหารโดยให้มีระยะห่างตามที่กำหนด

7.จัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดโดยใช้แอลกอฮอล์และน้ำยาฆ่าเชื้อ ในบริเวณพื้นอาคาร ห้องน้ำ รถเข็น เก้าอี้ที่พักผู้โดยสาร ราวบันได ลิฟต์โดยสาร และอุปกรณ์สำหรับให้บริการ และอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตามจุดต่าง ๆ ทุกชั่วโมง หรือหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทุกเที่ยวบิน และจะทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร ทุกสัปดาห์

8.มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น จอประชาสัมพันธ์ภายในอาคาร ตั้งป้ายประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID – 19 หรือแนวทางการปฏิบัติต่าง ๆ ให้ผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ทราบ

9.จัดเจ้าหน้าที่เพื่อให้คำแนะนำให้กับผู้โดยสาร ประจำทุกจุด

สำหรับผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทางในเส้นทางต่าง ๆ ขอให้สอบถามข้อมูลการเดินทางโดยตรงกับสายการบินก่อนการเดินทางทุกครั้ง และขอให้มั่นใจว่า กรมมีความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสาร และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด – 19 ควบคู่มาตรฐานการบิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง