สะท้อนกลับ ! นักวิทยาศาสตร์คิดสีขาวที่สุดในโลก สะท้อนแสงอาทิตย์ลดความร้อน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพอร์ดู (Purdue University) รัฐอินเดียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา พัฒนาสิ่งที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "สีที่ขาวที่สุดในโลก” ณ ตอนนี้ โดยมันมีศักยภาพสำคัญในการช่วยสะท้อนแสงแดดได้ดี และคาดว่าจะกลายมาเป็นทางเลือกใหม่สำหรับตัวช่วยลดอุณหภูมิความร้อนให้กับอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ในเมืองได้ดียิ่งขึ้น
โดยนักวิจัยกล่าวว่า สีขาวที่พัฒนาขึ้นมานี้ มีศักยภาพในการช่วยลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศได้อย่างมาก เพราะถ้านำสีขาวแบบพิเศษนี้ ไปทาที่ผนังของอาคารต่าง ๆ มันก็จะช่วยสะท้อนแสงแดดและทำให้ตัวอาคารและโครงสร้างเย็นลง ซึ่งจะช่วยให้เราลดการใช้งานเครื่องปรับอากาศลงได้ สำหรับสีขาวที่พัฒนาขึ้นนี้ มีส่วนประกอบสำคัญคือ แบเรียมซัลเฟต (Barium Sulfate) ที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่ง แบเรียมซัลเฟต เป็นสารประกอบไอออนิกที่พบได้ทั่วไป และมักใช้เป็นเม็ดสีในการผลิตสีต่าง ๆ
ซิ่วหลิน หรวน (Xiulin Ruan) ศาสตราจารย์ผู้ดูแลโครงการนี้กล่าวว่า สูตรสีขาวที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้ ไม่เหมือนกับสร้างสีขาวแบบพิเศษในครั้งก่อน ๆ เพราะสูตรสีขาวตัวใหม่ ไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุตั้งต้นที่มีราคาแพงและหายาก ทำให้สามารถปรับขนาดได้สำหรับการผลิตจำนวนมาก นอกจากนี้ ตัวสียังช่วยให้พื้นผิวภายนอกที่ทาสีขาวนี้ลงไป มีอุณหภูมิที่เย็นลง หรือต่ำกว่าอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมราว 4.5 องศาเซลเซียส และยังมีคุณสมบัติช่วยสะท้อนแสงแดดได้มากถึงร้อยละ 98.1 ซึ่งถือว่าสูงมาก
อย่างไรก็ตาม ตัวสีขาวแบบพิเศษสูตรใหม่นี้ ก็ยังมีข้อจำกัดในการใช้งานที่จำเป็นต้องพัฒนาต่อไป ก็คือยังจำเป็นต้องทาให้ชั้นสีมีความหนาพอสมควร เพื่อให้มันมีประสิทธิภาพในการสะท้อนแดดและป้องกันความร้อนได้จริง ๆ โดยขณะนี้ทีมงานกำลังดำเนินการทดสอบความทนทานของการใช้สีขาวพิเศษนี้ในระยะยาว เพื่อเก็บข้อมูลสำหรับการพัฒนาสูตรที่สามารถทำให้เราใช้สีในปริมาณที่บางลงได้
ซึ่งถ้าพัฒนาแล้วเสร็จ ก็อาจจะกลายมาเป็นตัวเปลี่ยนเกม สำหรับการต่อสู้กับปรากฏการณ์ “ความร้อนในเมือง” หรือการที่บรรดาเมืองต่าง ๆ ประสบปัญหาอุณหภูมิที่สูงขึ้น เนื่องจากมีสิ่งปลูกสร้างที่ใช้คอนกรีตและพื้นถนนยางมะตอย เป็นจำนวนมาก ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดูดซับและกักเก็บความร้อนเอาไว้ ดังนั้นถ้าสีขาวตัวนี้สามารถลงสู่ท้องตลาดได้จริง ก็จะทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้น และประหยัดการใช้พลังงานมากขึ้นโดยเฉพาะในฤดูร้อนนั่นเอง
ข้อมูลจาก leternalgroup, theglobeandmail, nytimes