รีเซต

แก้ กม.มอบอำนาจเต็ม 'ประวิตร' เซ็นงบประมาณ-แต่งตั้งโยกย้าย ขรก. มีผลย้อนหลัง 24 ส.ค.

แก้ กม.มอบอำนาจเต็ม 'ประวิตร' เซ็นงบประมาณ-แต่งตั้งโยกย้าย ขรก. มีผลย้อนหลัง 24 ส.ค.
มติชน
31 สิงหาคม 2565 ( 09:25 )
137

แก้กฎหมายมอบอำนาจเต็ม ‘บิ๊กป้อม’ เซ็นงบประมาณ-แต่งตั้งโยกย้าย ขรก. มีผลย้อนหลัง 24 ส.ค. ทีม กม.เร่งแจงศาล รธน.ปม 8 ปี ‘บิ๊กตู่’ เพื่อไทยห่วงยุบสภาเสี่ยงวุ่นวาย

 

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรก ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยกรณีวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี

 

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม เมื่อ พล.อ.ประวิตรเดินทางถึงตึกสันติไมตรี ได้ลงรถด้วยท่าทีกระฉับกระเฉง โดยไม่มีทีมรักษาความปลอดภัยเข้าประคอง ขณะที่ช่วงเดินผ่านกลุ่มช่างภาพและสื่อมวลชน มีสีหน้ายิ้มแย้มและโบกมือทักทายด้วย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าร่วมประชุม ครม.ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เดี๋ยวคอนเฟอเรนซ์

 

ตู่เก้าอี้โล่งแจมผ่านคอนเฟอเรนซ์

รายงานแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์เข้าทำงานที่กระทรวงกลาโหม และร่วมประชุม ครม.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานในที่ประชุมนั้น ไม่ได้เข้าไปนั่งเก้าอี้ของนายกฯ แต่นั่งเก้าอี้รองนายกฯที่เดิม คาดว่าเป็นการให้เกียรติ พล.อ.ประยุทธ์ที่อยู่ระหว่างศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

 

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม.ถึงการให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า ท่านก็ทำงานของท่าน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กำลังใจดี

 

ป้อมยันทำงานได้ยังไม่ปรับ ครม.

ต่อมาเวลา 12.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประวิตรได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับรัฐมนตรี จากนั้นให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงบรรยากาศการประชุม ครม.ว่า ไม่มีอะไรเรียบร้อยดี เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเมืองที่วุ่นวายในขณะนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้ำว่า ไม่มีอะไร เมื่อถามว่าจะมีการปรับ ครม.ช่วงเป็นที่เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวยืนยันว่าไม่มีการปรับ ครม. เมื่อถามย้ำว่าจะปรับ ครม.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้ำว่า ปรับทำไม ยังทำงานได้อยู่นี่

 

เมื่อถามถึงกรณี ส.ส.ประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขู่ถอนตัวจากกระแสข่าว ส.ส.ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอให้ปรับ ครม. โดยให้ริบโควต้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไปถาม ส.ส.ภาคใต้เพราะผมไม่ได้พูด

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประวิตรมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมหยุดตอบคำถามสื่อมวลชน โดยไม่มีท่าทีฉุนเฉียว

ลั่นไม่เหนื่อยใช้ใจบันดาลแรง

ต่อมา พล.อ.ประวิตรยังให้สัมภาษณ์ภายหลังให้การต้อนรับดะโต๊ะ ซรี ฮิชามมุดดิน บิน ตุน ฮุสเซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย ถึงการทำหน้าที่รักษาการราชการแทนนายกรัฐมนตรีว่า ไม่เหนื่อยมาก ไม่เหนื่อย เมื่อถามย้ำว่ายังไหวใช่หรือไม่ เพราะดูเหมือนสุขภาพดีขึ้น เดินคล่องขึ้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ให้ใจบันดาลแรง พร้อมกล่าวย้ำ 2 ครั้งว่า ใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่ใช้แรงบันดาลใจ

ตู่เปิดกล้องโชว์หน้าแต่ไม่พูด

ขณะเดียวกัน ภายหลังการประชุม ครม. สำนักโฆษกประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่ภาพบรรยากาศการประชุม ครม.ที่มี พล.อ.ประวิตรเป็นประธาน และปรากฏภาพชัดเจนว่า พล.อ.ประวิตรไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกฯโดยปล่อยเก้าอี้นายกฯที่ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งเป็นประธานการประชุมทุกครั้งเว้นว่างไว้ และนั่งเก้าอี้รองนายกฯด้านขวามือ ส่วนนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นั่งเก้าอี้รองนายกฯด้านซ้ายมือ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งประชุม ครม.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์นั้น ได้เปิดให้เห็นหน้าเพียงช่วงต้นของการประชุมครู่เดียวเท่านั้น ก่อนจะปิดหน้าจอเพื่อฟังเสียงการประชุมโดยไม่ได้เสนอแนะหรือออกความเห็นใด

 

ป้อมอำนาจเต็มเซ็นงบ-แต่งตั้ง

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศการประชุม ครม.ว่า รัฐมนตรีบางคนประชุมผ่านออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติทุกสัปดาห์มีเช่นนี้ และตนชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.ว่าไม่มีสุญญากาศ ครม.คือ ครม.อำนาจเต็ม ไม่ใช่ ครม.รักษาการ คนรักษาการนายกรัฐมนตรีมีคนเดียวคือ พล.อ.ประวิตร ตามมาตรา 41 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ตามที่ ครม.มีมติมอบหมาย หากมีรองนายกรัฐมนตรีหลายคน ให้ ครม.เป็นจัดลำดับ หากไม่มี ให้ ครม.เลือกรัฐมนตรีขึ้นมา แต่วันนี้ไม่ไปไกลถึงขั้นนั้น เพราะมีการออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีไว้ปี 2563 จัดลำดับไว้ แต่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่จัดลำดับไว้ มีการระบุว่าเวลารักษาราชการนั้นสามารถจัดการอะไรได้หมดทุกอย่าง ยกเว้นการแต่งตั้งและเรื่องงบประมาณจะต้องปรึกษานายกรัฐมนตรีเสียก่อน จึงมีการเสนอคำสั่งสำนักนายกฯปรับปรุง

 

นายวิษณุกล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวเพราะเป็นไปไม่ได้ที่ พล.อ.ประวิตร เมื่อรักษาการแล้วหากมีการแต่งตั้งโยกย้ายหรือมีเรื่องงบประมาณจะต้องไปปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ที่อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องแก้คำสั่งตัดประโยคนี้ออกไป เพื่อให้มีอำนาจเต็ม และมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 24 สิงหาคม

 

ชี้ยกเว้นป้อมไม่อยู่-มีรักษาการ

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ก่อนการประชุม ครม. พล.อ.ประวิตรได้เข้าไปนั่งห้องรับรองตามปกติ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์และรัฐมนตรีคนอื่นๆ เข้าไปพูดคุยด้วย ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เดินทางมายังทำเนียบฯแต่เข้าร่วมประชุม ครม.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยเลขาธิการ ครม.ได้รายงานคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 215/2565 เกี่ยวกับการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประวิตร และอำนาจหน้าที่ของรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในคำสั่งฉบับนี้ ซึ่งเป็นการปรับปรุงมาจากคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 237/2563

 

ขณะที่นายวิษณุ อธิบายว่า เป็นการยกเลิกคำสั่งฉบับเก่า แล้วเอาคำสั่งล่าสุดมาใช้ มีผลตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม พร้อมย้ำว่า พล.อ.ประวิตร มีอำนาจเต็มทุกประการ ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ จะมีข้อยกเว้นคือ กรณี พล.อ.ประวิตรไม่อยู่ แล้วให้รองนายกรัฐมนตรีลำดับถัดมารักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ถึงจะมีข้อจำกัด

 

ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สอบถามว่าเป็นการปรับปรุงคำสั่งเดิมหรือออกคำสั่งใหม่ นายวิษณุจึงย้ำว่า เป็นคำสั่งเดิมที่เอามาปรับปรุง ทำให้ยกเลิกคำสั่งเดิมไปโดยปริยาย เนื้อหาคัดลอกมาหมด แค่เปลี่ยนเรื่องการบริหารบุคคลและเรื่องงบประมาณ

 

ขณะเดียวกัน นายวิษณุระบุด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีผลตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ยังเป็น ครม.อำนาจเต็ม มีอำนาจทุกอย่าง

 

รายงานข่าวแจ้งว่า การทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ครม.ของ พล.อ.ประวิตรครั้งนี้ไม่มีพักเบรกเหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน และเวลาจบแต่ละวาระ พล.อ.ประวิตรจะถามว่ามีใครจะแสดงความเห็นอะไรหรือไม่ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้พูดอะไรเลย เนื่องจากไม่มีวาระของกระทรวงกลาโหม

 

สันติดับข่าวทิ้งพปชร.ซบ ภท.

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่ายังไม่ได้ยิน เป็นไปไม่ได้ และไม่ได้อยู่ในสมอง ไม่ได้คิดเรื่องนี้ คงเป็นแค่ข่าว ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้ายังอยู่กับพรรคใช่หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า พปชร.เป็นพรรคที่ประชาชนให้ความหวังไว้มาก ดังนั้นไม่ย้ายไปไหน ยังอยู่กับพรรคแน่นอน

 

เมื่อถามถึงกระแสข่าว “บิ๊ก พ.” จะเข้ามาอยู่ในพรรค โดยมาเป็นเลขาธิการพรรค นายสันติกล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ ใครที่ทำให้พรรคแข็งแรง ไม่มีปัญหาทั้งนั้น

 

มือ กม.เร่งทำคำชี้แจงปม 8 ปี

พล.ต.วิระ โรจนวาศ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้รับผิดชอบจัดทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญประเด็นวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญกำหนดให้ส่งคำชี้แจงภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับสำเนาคำร้อง ว่าการส่งคำชี้แจงจะทำให้เร็วและตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด สัปดาห์นี้คงแล้วเสร็จ และจะส่งได้ก่อนกำหนด 15 วัน เพราะทราบความจำเป็นเร่งด่วนของเรื่องนี้ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ห่วงอะไร ท่านให้ดูไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

 

เมื่อถามว่า คำชี้แจงต้องระบุเรื่องการครบตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะเป็นเวลาใดหรือไม่ พล.ต.วิระกล่าวว่า ชี้แจงตามข้อกฎหมาย ไม่มีอะไรน่ากังวล เนื้อหาที่ส่งไปมีครบทุกประเด็นที่ผู้ร้องยื่นร้องมา

 

“เราตอบทุกคำถามที่ถามมาและมีข้อกฎหมายที่สนับสนุนไม่สนับสนุนอะไร ตีความตามตัวอักษรของรัฐธรรมนูญกำหนด และที่ถูกต้องควรจะเป็นอย่างไร และให้ศาลใช้ดุลพินิจอีกครั้งหนึ่ง เพราะศาลคงต้องพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่ายมารวมกัน และความเห็นควรจะเป็นอย่างไร ท่านมี 9 คน คงพิจารณารอบคอบและเป็นดุลพินิจของศาล” พล.ต.วิระกล่าว

 

ตีความตามอักษร-เจตนารมณ์

เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นอดีตคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร พล.ต.วิระกล่าวว่า บันทึกการประชุมของ กรธ.ที่ครั้งที่ 500/2561 ประชุมเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีจะนับอย่างไร ตอนนั้นคุยกัน แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ และไม่ใช่ความคิดเห็นของคณะกรรมการส่วนใหญ่ อีกทั้งความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ จึงขึ้นอยู่กับการตีความรัฐธรรมนูญว่าจะตีความอย่างไร

 

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่ศาลรัฐธรรมนูญเชิญนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ.มาให้ความเห็น พล.ต.วิระกล่าวว่า ไม่กังวล ท่านเป็นคนมีความรู้ความสามารถ และเป็นอดีตประธาน กรธ. ส่วนเรื่องข้อกฎหมาย การพิจารณาว่าไปตามหลักเกณฑ์และเนื้อความกฎหมาย การตีความตามตัวอักษรและเจตนารมณ์

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนที่เป็นตัวจริงในการร่างรัฐธรรมนูญมาช่วยการสู้คดีประเมินว่าน่าจะผ่านได้ใช่หรือไม่ พล.ต.วิระกล่าวว่า คงต้องแล้วแต่ดุลพินิจของศาล เพราะเป็นนักกฎหมาย ทำเรื่องคดีเกี่ยวกับเรื่องศาลรัฐธรรมนูญมามาก

 

พท.ห่วงยุบสภาเสี่ยงวุ่นวาย

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรค พท. ให้สัมภาษณ์กรณีอำนาจรักษาการนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประวิตรสามารถยุบสภาได้หรือไม่ว่า สำหรับการยุบสภาช่วงนี้จะเหมาะสมหรือไม่ แม้อยากให้รัฐบาลชุดนี้คืนอำนาจให้กับประชาชน แต่ก็ไม่มีข้อขัดแย้งกันระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือฝ่ายบริหารกับฝ่ายสภา แต่ผลการกระทำ 8 ปีที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าควรจะคืนอำนาจให้ประชาชนได้แล้ว แต่ที่เราไม่เรียกร้องเพราะเกรงว่าจะมีสุญญากาศทางการเมืองเกิดขึ้น และการยุบสภาช่วงนี้ไม่เหมาะสม เพราะหากยุบสภาแล้วจะไม่เกิดการเลือกตั้ง หรือหากเกิดการเลือกตั้งจะมีการใช้กลไกซึ่งอาจจะชอบหรือไม่ชอบด้วยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เช่น การออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) หรือออกประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งกติกาที่ออกมาจะเป็นธรรมหรือไม่ ต้องเป็นสิ่งที่ต้องดูและคิดกัน ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดวิกฤตทางการเมืองและเกิดความวุ่นวายเป็นไปได้สูง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง