หนุ่มปืนดุมอบตัวแล้ว เคลียร์เรื่องแพเขื่อนกระเสียวไม่ลงตัว จบด้วยไล่ยิง โดน นทท.เสียชีวิต 1 เจ็บ 3
หนุ่มปืนดุมอบตัวแล้ว เคลียร์เรื่องแพเขื่อนกระเสียวไม่ลงตัว จบด้วยไล่ยิง นักท่องเที่ยวเสียชีวิต 1 เจ็บ 3 ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหา ผู้ว่าฯให้เจ้าของพื้นที่จัดระเบียบผู้ประกอบการ สั่งเข้มงวดการขอใบอนุญาตปืน
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 สิงหาคม ร.ต.อ.นิวัฒน์ สุบงกฏ รอง สว.สอบสวน สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้ง มีเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บริเวณหาดทรายท้ายเขื่อนกระเสียว ต.ห้วยขมิ้น อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบภายในซุ้มแคร่ไม้ไผ่ที่ให้นักท่องเที่ยวมานั่งกินอาหาร มีคราบเลือดหลายจุด สำหรับผู้บาดเจ็บมีผู้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลด่านช้างแล้ว
เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุซึ่งเป็นวันหยุด มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และมีผู้ประกอบการให้เช่าแพ ระหว่างแพจูเนียรกับแพตี๋มีการทะเลาะกันเรื่องการรับลูกค้า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนกลางมาไกล่เกลี่ยปัญหาให้ ซึ่งทำแพให้เช่าในลักษณะเดียวกัน
หลังเคลียร์จบแล้ว ลูกชายเจ้าของแพทราบชื่อคือ นายจักรกฤษ ไพเรือง หรือ เจมส์ อายุ 29 ปึ ได้เดินมาแล้วไม่พูดอะไร ก่อนชักปืนลูกโม่ ขนาด .357 ยิงใส่อีกฝ่ายและวิ่งไล่ยิงไปเรื่อยๆ จนกระสุน พลาดไปโดนนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายกอบชัย อยู่สิริ อายุ 24 ปี ชาว ต.ทับหลวง อ.บ้านไร จ.อุทัยธานี ถูกยิงเข้าที่อกซ้ายทะลุหลัง ขณะนั่งเล่นเกมอยู่ในซุ้มแคร่ไม้ไผ่ และมีผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย คือ นายงาม แสงเพชร คนของแพตี๋ ถูกยิงที่ท้องด้านซ้ายและต้นขาขวา นายนิคม เอี่ยมศรี คนของแพตี๋ ถูกยิงโดนถากๆ ที่ใกล้ชายโครงซ้าย และ นายวงศ์สุวรรณ ปฏิพันธ์ นักท่องเที่ยว ถูกยิงที่ชายโครงขวา ทั้งหมดถูกนำตัวส่ง รพ.ด่านช้าง ส่วนนายจักรกฤษได้หลบหนีไป
ต่อมา พ.ต.อ.ยิ่งยศ เขินอำนวย ผกก.สภ.ด่านช้าง กล่าวว่า ตอนนี้ได้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งได้ให้ชุดสืบสวนออกติดตาม จนไปพบตัวผู้ก่อเหตุ โดยมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกำลังจะพานายจักรกฤษมามอบตัวที่โรงพัก ตอนนี้อยู่ระหว่างสอบสวน เบื้องต้นทราบว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากปัญหาเรื่องธุรกิจ เพราะทั้งคู่ทำแพให้นักท่องเที่ยวเช่า และเคยมีปัญหากันมาก่อนหน้านี้แล้ว และวันนี้มีการไปตกลงกัน เนื่องจากมีแพลอยไปในเขต โดยมีคนกลางไปช่วยคุย แต่หลังจากคุยกันเสร็จ ผู้ก่อเหตุซึ่งมาทีหลัง ไม่พูดอะไร ได้ชักปืนยิงใส่จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
น.ส.ขวัญ เพื่อนผู้เสียชีวิต กล่าวว่า มาเที่ยวกัน 8 คน มาจาก จ.อุทัยธานี ก่อนเกิดเหตุกำลังจะไปลงเแพกัน แต่คนตายไม่ไป จะนั่งเล่นเกมในซุ้ม ตอนกำลังขึ้นแพได้ยินเสียงคนทะเลาะกันข้างแพแต่ไม่รู้เรื่องอะไร จากนั้นได้ยินเสียงปืนจึงหันไปเห็นคาตา เห็นเขาวิ่งไล่ยิงกัน จากนั้นเพื่อนของตนก็ล้มลงไป
คนกลางที่มาไกล่เกลี่ย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุคนยิงให้ตนไปคุยกับพ่อเขา เราก็ไปคุยและตกลงกันแบ่งที่หากินกัน ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาน่าจะเคยมีปัญหากันมาก่อน พอตกลงกันจบลูกชายเขาก็มา ตนจะเดินไปบอกให้ขอโทษ แต่ยังไม่ทันพูด เขาก็ชักปืนยิงใส่
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ต.อ.ยิ่งยศ พร้อมกำลังตำรวจ สภ.ด่านช้างกว่า 20 นาย คุมตัวนายจักรกฤษ หรือเจมส์ ผู้ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ จุดเกิดเหตุ ท่ามกลางการคุ้มกันของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด หวั่นเกิดการรุมประชาทัณฑ์ ทั้งนี้ ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดสุพรรณบุรี กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้ลงพื้นที่หาหลักฐานในจุดเกิดเหตุเพิ่มเติม
พ.ต.อ.ยิ่งยศกล่าวว่า หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ก่อเหตุ ซึ่งนายเจมส์รับสารภาพว่าเป็นผู้กระทำลงไป และจะทำการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ส่วนสาเหตุนั้น จากการสอบสวนพบว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งของสถานประกอบการแพเช่า กรณีรุกล้ำเขตกัน มีการเจรจาหลาครั้งแล้วแต่ยังตกลงกันไม่ได้ จนมาก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันกับคูกรณี ฝ่ายผู้ก่อเหตุได้คว้าอาวุธปืนยิง ทำให้มีผู้ถูกลูกหลงบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นได้แจ้ง 5 ข้อกล่าวหา 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พยายามฆ่า 3.ครอบครองอาวุธปืน 4.พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต 5.ยิงปืนในที่สาธารณะ อย่างไรก็ดี จะทำการสอบสวนเพิ่มเติม และจะนำตัวฝากขังที่ศาลในวันพรุ่งนี้
นายเจมส์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพว่า ตนเองควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุมีการเคลียร์ปัญหาเรื่องรุกล้ำเขตการทำแพ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการแย่งลูกค้ากัน ก่อนหน้านี้มีปัญหากันหลายครั้ง จนมาถึงวันเกิดเหตุซึ่งเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า ตอนทะเลาะวิวาทกัน ต้องขอโทษญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ขออโหสิกรรมและพร้อมชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป
ด้าน นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าฯสุพรรณบุรี กล่าวว่า หลังเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง โดยนายอำเภอด่านช้างประสานงานกับเจ้าของพื้นที่คือกรมชลประทานและเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจัดระเบียบผู้ประกอบการ พร้อมหารือกำหนดแนวทางการประกอบการ เพื่อลดข้อขัดแย้ง รวมถึงมาตรการในการขอใบอนุญาตเกี่ยวกับอาวุธปืน ทั้งการขอมีและขอใช้ (ใบ ป.3 และ ป.4) รวมถึงการขอใช้ติดตัว (ป.12) ได้มีการกำชับแนวทางปฏิบัติไปแล้ว ให้ทุกอำเภอพิจารณาอนุญาตให้เฉพาะรายที่จำเป็น และหากไม่มีเหตุผลให้ทางอำเภอทุกแห่งชะลอการพิจารณาใบอนุญาตเกี่ยวกับอาวุธปืน เพื่อควบคุมอาวุธปืนไม่ให้มีการครอบครอง ซึ่งอาจส่งผลต่อการก่อเหตุมากขึ้นด้วย