'ครัวเรือนกัมพูชา' กว่า 1,700 สมัครใจย้ายจากพื้นที่ 'นครวัด'

เสียมราฐ, 13 ก.ย. (ซินหัว) -- วันอังคาร (13 ก.ย.) สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เผยว่าครอบครัวชาวกัมพูชาซึ่งอาศัยอยู่ในโครงสร้างผิดกฎหมายบนพื้นที่อุทยานโบราณคดีอังกอร์หรือนครวัด ในจังหวัด เสียมราฐทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา สมัครใจโยกย้ายไปยังสถานที่แห่งใหม่ อย่างน้อย 1,711 ครัวเรือน จากราว 6,000 ครัวเรือนแล้วสถานที่ใหม่ดังกล่าวอยู่ในหมู่บ้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรุนตาเอก ขนาด 1,300 เฮกตาร์ (ราว 8,125 ไร่) ในเขตบันทายศรี ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 20 กิโลเมตรฮุนเซนกล่าวขณะเยี่ยมเยียนชาวบ้านว่า การโยกย้ายครั้งนี้เป็นไปเพื่อรักษาความงามของอุทยานฯ ซึ่งองค์การยูเนสโก (UNESCO) ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 1992"เรายอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขทั้งหมดที่ยูเนสโกกำหนด ตอนเสนอให้มีการขึ้นทะเบียนอุทยานฯ เป็นมรดกโลก เราจึงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านั้น มิฉะนั้นอุทยานฯ อาจถูกถอดออกจากรายการมรดกโลก" ฮุนเซนเปิดเผยฮุนเซนระบุว่าแต่ละครอบครัวที่ย้ายออกไป ได้รับมอบที่ดินกว้าง 20 เมตร และยาว 30 เมตร เงินสดจำนวนหนึ่ง และบัตรคนยากจน ซึ่งทำให้ผู้ถือบัตรสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมให้คำมั่นสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างถนน ไฟฟ้า น้ำสะอาด ตลาด โรงเรียน และศูนย์สุขภาพในเขตโยกย้ายด้วยทั้งนี้ อุทยานฯ ขนาด 401 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกัมพูชา โดยอังกอร์ เอนเทอร์ไพรซ์ (Angkor Enterprise) เผยว่าอุทยานฯ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 110,570 คนช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 17.6 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และสร้างรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชม 4.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 161.17 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 17 เท่าเมื่อเทียบปีต่อปีอนึ่ง อุทยานฯ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 2.2 ล้านคนในปี 2019 เมื่อช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ และทำรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชม 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.59 พันล้านบาท)