สรุปงาน Adobe MAX 2025 Sneaks เผย 10 สุดยอดนวัตกรรม AI สร้างสรรค์ภาพ เสียง และวิดีโอ

วันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา เวที Adobe MAX 2025 Sneaks ได้นำเสนอแนวคิดซึ่งถือกำเนิดขึ้นจากทีมวิศวกรรมและวิจัยของ Adobe งานนี้เป็นจุดที่เทคโนโลยีเชิงทดลองพบกับความอยากรู้อยากเห็นเชิงสร้างสรรค์ และนวัตกรรมเหล่านี้มักจะถูกนำไปรวมอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนนับล้านใช้งานทุกวัน
การนำเสนอ Sneaks ในปีนี้จัดขึ้นโดยเจสสิก้า วิลเลียมส์ (Jessica Williams) นักแสดงตลก นักเขียน และนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Emmy และ Critics Choice
งาน Adobe MAX Sneaks ถือเป็นไฮไลต์สำหรับหลาย ๆ คน โดยปีนี้ได้นำเสนอภายใต้แนวคิดพลังงาน อารมณ์ขัน และแรงบันดาลใจ เพื่อแสดงให้เห็นว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังขยายความเป็นไปได้ในการแสดงความคิดสร้างสรรค์ ทำให้กระบวนการต่าง ๆ เร็วขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น และสนุกยิ่งขึ้น
การพลิกโฉมภาพถ่ายและโลก 3D ด้วย AI
โครงการที่โดดเด่นในกลุ่มการจัดการภาพถ่าย แสดงให้เห็นถึงการควบคุมที่เหนือกว่าการแก้ไขภาพแบบดั้งเดิม
1. Project Surface Swap การใช้ AI ในการจดจำพื้นผิวเพื่อเลือกและสลับวัสดุได้อย่างราบรื่นทันทีจากภาพถ่าย โดยยังคงรักษาแสงและมุมมองไว้ เครื่องมือนี้ช่วยให้สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของวัสดุใด ๆ ได้ เช่น เบาะโซฟาหรือพื้นไม้
2. Project Light Touch เครื่องมือ Generative AI ที่พลิกแนวคิดเดิม โดยอนุญาตให้ผู้ใช้ปรับเปลี่ยนแหล่งกำเนิดแสงหลังจากที่ถ่ายภาพไปแล้ว ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนจากกลางวันเป็นกลางคืน หรือปรับโฟกัสและอารมณ์ได้ทั้งหมดในขั้นตอนหลังการผลิต โดยไม่ต้องถ่ายซ้ำ
3. Project Turn Style ช่วยให้การแก้ไขวัตถุ 2D ราวกับว่าวัตถุนั้นเป็น 3D ผู้ใช้สามารถหมุน ปรับมุม หรือจัดตำแหน่งองค์ประกอบใหม่ภายในภาพ โดยที่พื้นผิวตามธรรมชาติ แสง และรายละเอียดต่าง ๆ ยังคงอยู่
4. Project Trace Erase ใช้โมเดล Diffusion transformer ในการลบวัตถุได้อย่างสมบูรณ์ เครื่องมือนี้ไม่เพียงแค่ลบ แต่ยังเข้าใจและนำเงา การสะท้อน และความผิดเพี้ยนของสิ่งแวดล้อมออกไปด้วย ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
5. Project New Depths มุ่งพัฒนาเครื่องมือแก้ไขภาพ 3D ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้ศิลปินสามารถปรับแต่งสี รูปร่าง และองค์ประกอบต่าง ๆ ในพื้นที่สามมิติได้อย่างสะดวก ราวกับการปรับความสว่างของภาพทั่วไป
6. Project Scene It เครื่องมือที่ช่วยให้ศิลปินสามารถออกแบบและจัดองค์ประกอบของฉาก 3D ได้อย่างละเอียดและแม่นยำ โดยสามารถติดแท็กวัตถุแต่ละชิ้นด้วยภาพอ้างอิง เพื่อควบคุมทั้งรูปแบบและสไตล์ของวัตถุนั้น จากนั้นยังสามารถเคลื่อนย้ายหรือปรับตำแหน่งวัตถุได้อย่างอิสระภายในพื้นที่สามมิติ ทำให้การสร้างฉากมีความยืดหยุ่นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
การปฏิวัติวิดีโอและการเคลื่อนไหว (Revolutionizing Video and Motion)
สำหรับการผลิตวิดีโอและภาพเคลื่อนไหว มีการนำเสนอเครื่องมือที่ช่วยเร่งความเร็วในการทำงาน
1. Project Frame Forward เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งวิดีโอทั้งเรื่องได้ง่าย ๆ เพียงใส่คำอธิบายลงในเฟรมเดียว และใช้ข้อความสั่งงาน (Text prompt) สั้น ๆ ระบบจะนำการเปลี่ยนแปลงนั้นไปใช้กับทุกเฟรมในวิดีโอโดยอัตโนมัติ ทำให้การตัดต่อมีความแม่นยำระดับเดียวกับการแก้ไขภาพถ่าย และช่วยลดเวลาในการผลิตได้อย่างมากโดยไม่ลดคุณภาพของผลงาน
2. Project Motion Map การใช้ AI วิเคราะห์กราฟิกเวกเตอร์แบบคงที่ และเคลื่อนไหว (Animate) แบบโดยอัตโนมัติ ผู้สร้างสามารถสร้างการออกแบบการเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้ Keyframes หรือการจัดโครงร่างด้วยมือ
การเปลี่ยนเสียงและการเล่าเรื่อง (Transforming Sound and Storytelling)
AI ยังถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มมิติของเสียงและคุณภาพการผลิต
1. Project Sound Stager ช่วยให้ผู้สร้างออกแบบเสียงได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยการวิเคราะห์ภาพวิดีโอ จังหวะ และโทนอารมณ์ เครื่องมือนี้สร้าง Soundscapes แบบเลเยอร์โดยอัตโนมัติ โดยใช้ตรรกะการออกแบบเสียงระดับผู้เชี่ยวชาญ ผู้ใช้ยังสามารถร่วมมือในการสนทนากับนักออกแบบเสียง AI เพื่อปรับแต่งได้
2. Project Clean Take เครื่องมือที่ทำให้การแก้ไขบทสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น เครื่องมือนี้ใช้ AI เพื่อแก้ไขการออกเสียงที่ผิดพลาด แยกเสียง ลบเสียงรบกวน และปรับปรุงการนำเสนอเสียง (Delivery) ทั้งหมดภายในไม่กี่วินาที เป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังสำหรับผู้ทำพอดแคสต์และผู้สร้างภาพยนตร์ที่ต้องการเสียงคุณภาพระดับสตูดิโอ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
