ส่องพื้นฐาน-เทคนิคลงทุน BEM-KCE-PRM-PTTEP

หุ้น BEM แนะนำซื้อ เป้าหมาย 11.25บ.

- กำไร Q3/65 +36% QoQ/+696% YoY และสูงกว่านวค.คาดการณ์ ผลจากจำนวนผู้ใช้ทางด่วนและผู้โดยสาร MRT ที่เพิ่มขึ้นมาก หลังหลายบริษัทยกเลิก WFH

- คาดกำไร Q4/65F ยังโตต่อเนื่อง YoY ตามการฟื้นตัวของปริมาณการเดินทางหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายและคาดดีต่อเนื่องในปี 66 หลังนักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามาช่วยหนุน

- คาดเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มต้นปี 66

- แนวรับ 9.3/9.4 แนวต้าน 9.6/9.65

หุ้น KCE แนะนำซื้อ เป้าหมาย 60บ.

- กำไร Q3/65 +15% QoQ/ +8% YoY จาก Gross Margin ที่ฟื้นตัวจากต้นทุนวัตถุดิบบางชนิดที่ลดลง ผลิตสินค้าที่ซับซ้อนมากขึ้น และเงินบาทอ่อนค่า

- คาดกำไร Q4/65 ยังเติบโตต่อเนื่องได้ จากต้นทุนวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่ราคาลดลงมาก และคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นมาก

- เตรียมสร้างโรงงานใหม่ที่นิคมอุตสากรรมโรจนะ กำลังผลิต 1 ล้านตารางฟุตต่อเดือน ช่วยเพิ่มกำลังผลิตของ KCE อีก 31% หนุนการเติบโตระยะยาว

- แนวรับ 48.5/49.5 แนวต้าน 52/53.5

หุ้น PRM แนะนำซื้อ เป้าหมาย 9.50บ.

- คาดกำไร Q4/65 ดีขึ้นต่อเนื่องจาก 3Q65 เนื่องจากเรือขนส่งน้ำมันลำที่ 3 กลับมาทำงานได้เต็มไตรมาสแล้ว บวกกับได้กำไร FX จากหนี้สกุลสหรัฐ 40 ล้านบาท

- ปี 2566 ได้รับผลบวกจากจีนเปิดประเทศ หนุนความต้องการนำเข้าน้ำมันดิบ และปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น บวกต่อ PRM อีกทั้งเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง หนุน Q1/66 มีกำไรFX คาดหนุนกำไรปี 66โตอีก 15%

- แนวรับ 7.45/7.55 แนวต้าน 7.85/8.0

หุ้น PTTEP แนะนำซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย 176บ.

- ราคาน้ำมันดิบกลับมาเพิ่มขึ้น หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ปรับลดลง ทำให้คาดว่า FED จะชะลอการการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า หนุนให้นักลงทุนสนใจลงทุนในน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาขายเฉลี่ยของ PTTEP

- PTTEP ตั้งงบประมาณสูงถึง 1 ล้านลบ. ใน 5 ปีข้างหน้าเพื่อเพิ่มมูลค่าธุรกิจ E&P ด้วยการสร้างยอดขายเติบโต +3% CAGR และการเติบโตในธุรกิจใหม่

- แนวรับ 166/167 แนวต้าน 173/175