เซเลนสกียันยูเครนไม่ใช่ภัยคุกคามรัสเซีย บังคับใช้ภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศแล้ว
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัสเซียว่ายูเครนถือเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย พร้อมกับเตือนว่าการรุกรานของรัสเซียอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคนตามมา
เซเลนสกีกล่าวผ่านแถลงการณ์ทางสถานีโทรทัศน์โดยพูดเป็นภาษารัสเซียว่า ประชาชนชาวยูเครนและรัฐบาลยูเครนต้องการสันติภาพ แต่หากเราถูกโจมตีซึ่งถือเป็นภัยต่อเสรีภาพและชีวิตของผู้คน พวกเราก็พร้อมที่จะต่อสู้กลับ
เซเลนสกีกล่าวด้วยว่า เขาพยายามที่จะโทรศัพท์เพื่อขอพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ นอกจากความเงียบงัน
ล่าสุดสมาชิกรัฐสภายูเครนได้ให้การรับรองการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ ท่ามกลางความหวั่นวิตกถึงความเป็นไปได้ของการบุกยูเครนโดยรัสเซีย สถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวจะบังคับใช้เป็นเวลา 30 วันเริ่มจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถออกมาตรการเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหว ห้ามการชุมนุม หรือการกระทำใดๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในชาติ รวมถึงความสงบเรียบร้อยในประเทศ
ด้านนายดิมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนทวีตว่า รัสเซียได้สั่งอพยพเจ้าหน้าที่กะดึกในโรงงานเคมีไททันที่ไครเมีย โดยโรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ในเมืองอาร์มยานสค์ของไครเมีย ซึ่งอยู่ห่างจากเขตแดนภายใต้การควบคุมของยูเครนเพียงราว 2 กิโลเมตรเท่านั้น
ทั้งนี้สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างประชาชนในพื้นที่ว่า เมืองอาร์มยานสค์เป็นสถานที่ซึ่งมีรถถังและรถลำเลียงหุ้มเกราะของรัสเซียไปปรากฏอยู่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ แม้ว่าการซ้อมรบในไครเมียของรัสเซียจะยุติไปหลายวันแล้ว แต่กลับไม่มีการเคลื่อนย้ายออกไปแต่อย่างใด