รู้ผลวันเดียวสิ้นใจ! สลดราชบุรี หญิงวัย 43 สังเวย 'โควิด' ญาติส่งฌาปนกิจทันที
โควิด : รู้ผลวันเดียวสิ้นใจ! สลดราชบุรี หญิงวัย 43 สังเวย 'โควิด' หลังมารักษาตัวด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกระยะลุกลามไปที่ท่อไต ก่อนตวรจเจอเชื้อ ญาติฌาปนกิจทันที
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 พ.ค.64 ที่วัดศิริเจริญเนินหม้อ (วัดโคกหม้อ) ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี พระครูสิริสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดศิริเจริญเนินหม้อ นางชูศร โฆษะบดี รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหลักเมือง ได้ร่วมพิธีนำศพผู้เสียชีวิต เป็นหญิงวัย 43 ปี มีโรคประจำตัวป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกและตรวจพบเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตที่ ร.พ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยญาติได้นำศพจาก ร.พ.ราชบุรี ซึ่งบรรจุใส่ถุงพลาสติกซีล 3 ชั้นใส่โลงปิดมิดชิด ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างดี ใส่รถกระบะนำมาส่งให้ที่วัดโคกหม้อ จากนั้นนำศพขึ้นสู่เมรุ โดยไม่มีการปิดฝาโลงหรือสัมผัสศพใดๆ เจ้าหน้าที่ของวัดได้ทำการฌาปนกิจ โดยนิมนต์พระรวม 4 รูป สวดทำพิธีภายในศาลา มีญาติเพียงไม่กี่คนเข้าร่วม
จาการสอบถามญาติผู้เสียชีวิตทราบว่าผู้ป่วย อายุ 43 ปี ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก อยู่ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี เข้ารับการรักษาที่ ร.พ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 23 เม.ย. และเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด ก่อนจะพบว่าติดเชื้อและเสียชีวิตเมื่อเย็นของวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ก่อนนำศพมาเผา เจ้าหน้าที่เข้ามาฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 บริเวณพื้นที่เมื่อช่วงเช้าด้วย เนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ได้มีประชาชนนำศพผู้ติดเชื้อโควิด วัย 79 ปี ตามไทม์ไลน์รายที่ 366 เป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่ ต.ดอนทราย อ.โพธาราม มาเผาที่วัดแห่งนี้ ทำให้ต้องเพิ่มความเข้มข้นของการดูแลมาตรการด้านสาธารณสุข จะดำเนินการฉีดก่อนที่จะนำศพมาและหลังการฌาปนกิจศพแล้วทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยของพื้นที่
น.ส.เบญจมาศ วิเชียรประศาสน์ นักวิชาการสาธารณสุข ชำนาญการ เทศบาลตำบลหลักเมือง กล่าวว่า จะดำเนินการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อหลังจากเผาเสร็จแล้ว และจะพ่นน้ำยาก่อนที่ทางสัปเหร่อจะเอาโลงออกมาเพื่อที่จะเก็บกระดูก หลังจากนั้นเราก็มาพ่นให้อีกรอบหนึ่งก่อนที่ศพใหม่จะเข้ามาอีก เท่ากับว่า 1 ศพนั้น เราทำให้ 3 รอบ คือ ช่วงก่อนที่ศพมา และตอนเก็บกระดูกเสร็จก็จะมาทำให้อีก อย่างวันนี้มี 3 ศพที่จะมาเผา ก็จะต้องมาอีก ถือเป็นมาตรการของเทศบาลตำบลหลักเมืองที่จะต้องดำเนินการ ทางสัปเหร่อก็จะมีชุดป้องกันพร้อมอุปกรณ์ครบหมดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ โดยศพจะแพ็กบรรจุมา 3 ชั้น พ่นยาที่โลงศพมาเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีกศพจะเข้ามาอีกประมาณบ่าย 2 และอีกศพจะมาตอนบ่าย 4 โมงเย็น ต้องทำเป็นวงจรให้ครบตามมาตรการ เพื่อความปลอดภัยของพื้นที่ ทำให้ขณะนี้ราชบุรีมีผู้เสียชีวิตจากโควิด -19 และได้นำศพมาฌาปนกิจศพแล้ว 3 ศพ
ด้าน พญ.ปาจารีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ราชบุรีมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รวม 4 ราย ส่วนรายที่ 3 นั้นเป็นหญิง วัย 43 ปี เป็นรายตามไทม์ไลน์ที่ 471 ของจังหวัด อยู่ ต.หน้าเมือง อ.เมือง เคสนี้ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก และระยะลุกลามไปที่ท่อไต ตรวจพบว่ามีปอดอักเสบรุนแรง เลยก็ตรวจโรคโควิด-19 ผลตรวจออกพบเชื้อเมื่อ 9 พ.ค. เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 พ.ค. เวลา 17.30 น. เป็นผู้เสียชีวิต 3 รายของเมื่อวานนี้
ส่วนเมื่อเช้าเป็นผู้ป่วยเป็นหญิง อายุ 67 ปี เป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยรายที่ 302 ของจังหวัด พื้นที่ อ.เมือง เคสนี้ทราบผลตรวจโควิด-19 เมื่อวันที่ 27 เม.ย. และมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ปอดอักเสบรุนแรง เสียชีวิตเมื่อช่วงเวลา 05.47 น. เป็น 4 ราย คือ มีโรคประจำตัว อายุมาก อีกส่วนคืออาการรุนแรงของภาวะที่ติดเชื้อโควิด ทำให้ปอดอักเสบมากจึงทำให้เสียชีวิตได้ ส่วนของคนไข้ในโรงพยาบาลอื่นๆ เองก็มีผู้ป่วยที่อาการรุนแรงเพิ่มมากขึ้นถ้าเปรียบระลอกใหม่แต่เป็นช่วงก่อนหน้านี้ ก่อนเมษายน ซึ่งคนไข้จะมีอาการเล็กน้อย หรือไม่มีอาการ แต่ระลอกเดือนเมษายนนี้ช่วงที่ผ่านมาอาการนั้นเป็นมากขึ้นและรุนแรง สิ่งที่ต้องบอกประชาชนคือ เรื่องโควิดนั้นถ้าติดแล้ว รอบนี้อาการรุนแรงง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีโรคประจำตัวหรือกลุ่มผู้สูงอายุ