รีเซต

‘ซิลิคอน’ ปลื้มกำไรสุทธิไตรมาส 2 โตกว่า 316% มั่นใจศักยภาพธุรกิจครึ่งปีหลังสดใส

‘ซิลิคอน’ ปลื้มกำไรสุทธิไตรมาส 2 โตกว่า 316% มั่นใจศักยภาพธุรกิจครึ่งปีหลังสดใส
มติชน
18 สิงหาคม 2563 ( 02:34 )
162
‘ซิลิคอน’ ปลื้มกำไรสุทธิไตรมาส 2 โตกว่า 316% มั่นใจศักยภาพธุรกิจครึ่งปีหลังสดใส

นายมานพ ธรรมสิริอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT  เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2563 ว่า ใน 3 กลุ่มสินค้าหลักของบริษัท กลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ มีรายได้เติบโตมากสุดที่ 27.57% จากไตรมากเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่สั่งสินค้าเพิ่ม ในส่วนกลุ่มระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ รายได้ลดลง 38.62% เนื่องจากลูกค้าเร่งส่งมอบสินค้าไปบางส่วนไปในไตรมาสแรกและรายได้จากกลุ่มระบบเข้าออกสถานที่และระบบการอ่านข้อมูล ใกล้เคียงระดับเดิมและลดลงเพียง 0.69% โดยบริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2563 อยู่ที่ 10.75 ล้านบาท ซึ่งได้รวมผลกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ 4.15 ล้านบาท เอาไว้แล้ว

 

นายมานพกล่าวว่า สำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 26.34 ล้านบาท และรายได้ทั้งหมด 170.17 ล้านบาท จาก 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์เป็นหลัก  โดยแบ่งเป็นกลุ่มระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ 45.63 ล้านบาท กลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ (Animal Identification) 77.43 ล้านบาท  และระบบเข้าออกสถานที่ (Access Control) และระบบการอ่านข้อมูล (Interrogator) 44.97 ล้านบาท

 

บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดไม่มากนัก ในไตรมาส 2 และสามารถปรับตัวเรื่องการขายและการตลาดให้เข้ากับสถานการณ์ที่ท้าทายนี้ได้เป็นอย่างดี โดยปรับแผนการเดินทางไปต่างประเทศมาเป็นการติดต่อกับลูกค้าทางออนไลน์ทั้งหมด ทำให้ค่าใช้จ่ายเรื่องการขายและการตลาดลดลงอย่างมากนายมานพ กล่าว

 

นายมานพกล่าวว่า ในไตรมาส 2 ของปี 2563 บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายเท่ากับ 5.65 ล้านบาท คิดเป็น 7.53 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้จากการขายทั้งหมด ลดลงจาก 6.70 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ของปีก่อนหน้านี้ ซึ่งคิดเป็น 8.98 เปอร์เซ็นต์ของรายได้จากการขาย โดยคาดว่าวิกฤตโควิด-19 จะจบลงในไม่ช้า หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง (Lockdown) เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและภาคเอกชนกลับมาดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจได้ตามปกติหรือใกล้เคียงภาวะปกติให้มากที่สุด บริษัทฯ มั่นใจในศักยภาพของธุรกิจไมโครชิพครึ่งปีหลังว่า จะยังคงสดใสและเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกมากมาย

 

เราจะยังคงเดินหน้าวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลักและโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อรองรับธุรกิจที่มีโอกาสในการเติบโตอย่างมหาศาล อาทิ เช่น ธุรกิจด้านสุขภาพ เกษตรกรรม สิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์เซนเซอร์ ที่เชื่อมต่อกับมือถือ โดยตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การ์ด NFC ทดสอบคุณภาพน้ำ และโซลูชั่นตรวจสอบสินค้าปลอมนายมานพ กล่าวทิ้งท้าย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง