สวีเดนล้มเหลว? ยอดดับโควิดพุ่งเกือบ 8 พันราย

วันนี้( 18 ธ.ค.63) สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ ของสวีเดน ตรัสว่า ประเทศของพระองค์ “ล้มเหลว” ในการรับมือการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ล้มเหลวในการรักษาชีวิตประชาชน เพราะการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ในการจัดการกับการระบาดของไวรัสโควิด พระองค์ทรงวิพากษ์วิจารณ์นโยบายป้องกันโควิดของรัฐบาลอย่างรุนแรง ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ

กษัตริย์กุสตาฟ ซึ่งพระโอรสและพระสุณิษา (ลูกสะใภ้) ของพระองค์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อเดือนที่แล้ว มีพระราชดำรัสต่อประชาชนผ่านทางสถานีโทรทัศน์เนื่องในเทศกาลคริสต์มาสประจำปี ทรงเน้นถึงผลกระทบที่กำลังรุนแรงจากการระบาดของไวรัสโควิด ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นจากกษัตริย์ ที่ปฏิบัติภารกิจด้านพิธีการเป็นส่วนใหญ่

สวีเดน ซึ่งเป็นประเทศเดียวที่ไม่ใช้มาตรการล็อคดาวน์ทั้งประเทศ มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดแล้วเกือบ 350,000 ราย และเสียชีวิตกว่า 7,800 ราย มากกว่าประเทศเพื่อนบ้านในแถบสแกนดิเนเวีย 

นายกรัฐมนตรีสเตฟาน ลอฟเว่น ของสวีเดน แถลงว่า เห็นด้วยเลยกับพระราชดำรัสของพระองค์ โดยนายลอฟเว่น กล่าวกับนักข่าวว่า แน่นอนความจริงที่ว่ามีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ คงไม่สามารถพิจารณาเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากความล้มเหลว ประชาชนสวีเดนได้รับความทุกข์ยากอย่างหนัก สมาชิกในครอบครัวที่เกิดเหตุไม่สามารถกล่าวคำร่ำลากับสมาชิกในครอบครัวที่เสียชีวิตได้ ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดและบอบช้ำทางจิตใจ ที่ไม่สามารถกว่าคำอำลาที่อบอุ่นได้

ทั้งนี้ สวีเดนไม่เคยล็อคดาวน์ทั่วประเทศ หรือบังคับสวมหน้ากากอนามัย บาร์และร้านอาหารก็ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตาม ในต้นสัปดาห์นี้โรงเรียนทั่วเขตกรุงสตอกโฮล์ม ถูกขอร้องให้เปลี่ยนเป็นการเรียนการสอนแบบเว้นระยะห่างสำหรับเด็กอายุ 13-15 ปีเป็นครั้งแรก เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งเป็นมาตรการตอบโต้หลังผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และในวันจันทร์นี้มีคำสั่งให้เว้นระยะห่างทางสังคมทั่วประเทศครั้งใหม่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสด้วย และยังแนะนำให้ประชาชนรวมกลุ่มกันได้สูงสุด 8 คนเท่านั้น, ให้รวมตัวกลางแจ้งหากเป็นไปได้ และหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยรถไฟ หรือรถบัส

ดร.แอนเดอร์ส เทกเนล นักระบาดวิทยาคนสำคัญของสวีเดน และเป็นผู้เสนอแนะแนวทางนี้ให้กับประเทศ เคยบอกเมื่อเดือนพฤศจิกายน ว่า แนวทางขอสวีเดน เป็นการผสมผสานกันระหว่าง มาตรการทางกฎหมาย และความสมัครใจของผู้คน และเขาเชื่อว่านี่คือแนวทางที่ดีที่สุด 

จากรายงานล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ พบว่าแนวทางนี้ล้มเหลวในการปกป้องคนสูงวัยในบ้านพักคนชรา ซึ่งรัฐบาลต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนรัฐบาลระบุว่า ผู้เสียชีวิตกว่า 90% เป็นคนสูงวัย 70 ปีขึ้นไป และเกือบครึ่งหนึ่งของ ผู้เสียชีวิตอยู่ในบ้านพักคนชรา 

ขณะที่ดร.เทกเนล ระบุว่า หน่วยงานของเขาซึ่งคือหน่วยงานสาธารณสุขของสวีเดน ไม่ใช่ผู้รับผิดชอบโดยตรงต่อระบบการดูแลผู้สูงวัย และทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรต้องช่วยกันในการทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และเพื่อไม่ให้คนสูงวัยติดเชื้อมากกว่านี้ ซึ่งคิดว่าสวีเดนทำได้ดีขึ้นในการปกป้องคนสูงวัย และย้ำว่าไม่มีประเทศไหนที่จะหลีกเลี่ยงจากเรื่องนี้ได้ 

เกาะติดข่าวที่นี่