กรุงศรี ส่องผลกระทบหุ้นกลุ่มแบงก์ จากประเด็นประท้วงที่อินโดนีเซีย

#ทันหุ้น-บล.กรุงศรี ออกบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มแบงก์ จากประเด็นการประท้วงในอินโดนีเซีย และทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิตรวม 4 ราย และประธานาธิบดีของอินโดนีเซียยกเลิกการไปเยือนจีน ซึ่งแชนแนลนิวส์เอเชียรายงานเมื่อวันเสาร์ (30 ส.ค.) ว่า ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ปราโบโว ซูเบียน โต ของ อินโดนีเซีย ประกาศยกเลิกแผนการเดินทางเยือนจีนในวันเสาร์ (30 ส.ค.) เนื่องจากการประท้วงที่ลุกลามออกนอกกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศ และอาคารรัฐสภาหลายแห่งในภูมิภาคถูกวางเพลิง โดยประชาชนออกมาท้วงเรื่องเงินเดือนของสมาชิกรัฐสภาและปัญหาด้านอื่นๆ จากนั้นสถานการณ์ก็เลวร้ายลงหลังจากรถตำรวจชนประชาชน ทำให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รายหนึ่งเสียชีวิต
ด้่านบีบีซี เผยว่า ส.ส. อินโดนีเซีย ได้รับเงินเดือน 50 ล้านรูเปียห์ (ราว 98,000บาท) สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำในจาการ์ตา เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซียเกือบ 10 เท่า นอกจากนี้ผู้ประท้วงยังเรียกร้องให้เพิ่มค่าจ้าง ลดภาษี และดำเนินมาตรการปราบปรามการทุจริตที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
ฝ่ายวิจัยกรุุงศรี มีมุมมอง slightly negative ต่อประเด็นข่าวการประท้วงที่อินโดนีเซีย เพราะคาดอาจกระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคาร โดยเฉพาะ BBL มีสัดส่วนสินเชื่ออินโดนีเซียประมาณ 10-15% (Permata) และ KBANK มีสัดส่วนสินเชื่ออินโดนีเซียต่ำกว่า 5% (Maspion) โดยฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางธนาคาร
ทั้งนี้ยังคงมองธีมการลงทุนกลุ่มธนาคารเป็น value play เพราะธนาคารมีจุดเด่นเรื่องเงินปันผล dividend yield คาดที่ 6-9% ต่อปี ภาพรวมปี 2568 มองการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ ทั้งค่าใช้จ่ายสำรอง (credit cost) และหนี้เสีย (NPL) เป็นประเด็นหลัก ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นระดับที่ธนาคารสามารถควบคุมได้ โดยคงหุ้น KTB (BUY,TP 28บ.) และ SCB (BUY,TP 145บ.) เป็น Top pick
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
