ทรัมป์สั่งหน่วยสืบราชการลับยกเลิกคุ้มครอง "คามาลา แฮร์ริส" ก่อนกำหนด

เมื่อวานนี้ (29 สิงหาคม) เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้สั่งการให้หน่วยสืบราชการลับ (Secret Service) ยกเลิกการคุ้มครองอดีตรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส คู่แข่งของทรัมป์จากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ปี 2024 ซึ่งตามปกติแล้วอดีตรองประธานาธิบดีจะได้รับการคุ้มครองจากหน่วยสืบราชการลับเป็นเวลา 6 เดือนหลังพ้นตำแหน่ง แต่การคุ้มครองของแฮร์ริสถูกขยายเวลาออกไปเป็น 1 ปี จนถึงเดือนมกราคม 2026 ตามคำสั่งของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จะพ้นจากตำแหน่งไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยด้วยว่าได้มีการส่งจดหมายถึงแฮร์ริสเพื่อที่จะแจ้งให้เธอได้ทราบว่าหน่วยสืบราชการลับจะยุติการคุ้มครองโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน นี้เป็นต้นไป โดยที่การยุติการปกป้องแฮร์ริสมีขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่แฮร์ริสอยู่ระหว่างการทัวร์โปรโมทหนังสือ "107 Days" ที่บันทึกความทรงจำการหาเสียงเลือกตั้งช่วงเวลาสั้น ๆ  ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 23 กันยายนนี้  ที่จะทำให้เธอกลับมาอยู่ในสปอตไลท์อีกครั้ง นับตั้งแต่พ้นจากตำแหน่งไป  ซึ่งการได้รับการปกป้องจาก secret service  จะทำให้บุคคลนั้นได้รับบทวิเคราะห์ และข่าวกรองอย่างทันท่วงที แต่เมื่อถูกยกเลิก ก็ทำให้ผู้ช่วยของเธอไม่สามารถเข้าถึงคำเตือนเรื่องภัยคุกคามได้ 

ด้าน เคียร์สเตน อัลเลน ที่ปรึกษาอาวุโสของแฮร์ริส ออกมากล่าวว่าอดีตรองประธานาธิบดีแฮร์ริสขอบคุณหน่วยสืบราชการลับ สำหรับความเป็นมืออาชีพ ความทุ่มเท และความมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัยตลอดเวลาที่ผ่านมา ขณะที่ อดัม ชิฟฟ์ วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตจากรัฐแคลิฟอร์เนีย หนึ่งในผู้ที่เคยออกมาวิจารณ์ทรัมป์อยู่บ่อยครั้ง โจมตีรัฐบาลของทรัมป์ว่าการกระทำครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งย้ำเตือนที่อันตรายว่าไม่มีอะไรสำคัญสำหรับโดนัลด์ ทรัมป์ไปกว่า “การล้างแค้น” 

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์เคยประกาศยุติการคุ้มครองจากรัฐบาลกลางสำหรับบุคคลอื่น ๆ ที่เคยวิพากษ์วิจารณ์เขา อาทิ จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงการยุติคุ้มครองให้กับลูก ๆ ของไบเดน ทั้ง ฮันเตอร์ ไบเดน และ แอชลีย์ ไบเดน ด้วย

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของ คามาลา แฮร์ริส หลังจากพ่ายแพ้โดนัลด์ ทรัมป์ ล่าสุดเธอเพิ่งออกมาประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมว่าเธอ “จะไม่ลงสมัคร” ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 2026 แต่ยังคงไม่ชัดเจนว่าในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอีก 4 ปีข้างหน้าเธอจะกลับมาหรือไม่