รีเซต

เจ้าของร้านค้าไม้ขึ้นป้ายโวย ธ.ก.ส. เงินหายกว่า 1 ล้าน 6 เดือนยังเงียบ จนท.โร่แจง

เจ้าของร้านค้าไม้ขึ้นป้ายโวย ธ.ก.ส. เงินหายกว่า 1 ล้าน 6 เดือนยังเงียบ จนท.โร่แจง
ข่าวสด
19 พฤษภาคม 2563 ( 16:26 )
288
เจ้าของร้านค้าไม้ขึ้นป้ายโวย ธ.ก.ส. เงินหายกว่า 1 ล้าน 6 เดือนยังเงียบ จนท.โร่แจง

 

เงินหาย จากกรณี นางศุภธียา สรรพา อายุ 55 ปี ชาว ต.เขาวง อ.บ้านตาขุน จ.หวัดสุราษฎร์ธานี ถูกคนร้ายโจรกรรมข้อมูลธนาคารและได้โอนเงินออกจากบัญชีของธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาบ้านตาขุนจำนวน 14 ครั้ง เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.62 ทำให้สูญเงินในบัญชีไปกว่า 1,020,020 บาท ก่อนที่จะเข้าแจ้งความ และขึ้นป้ายเรียกร้องให้ทางธนาคารรับผิดชอบกับเงินที่หายไป

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 พ.ค.ที่ร้านหงษ์ค้าไม้ เลขที่ 34/13 หมู่ 2 ต.เขาวง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี นางศุภธียา ได้ขึ้นป้ายขาว-ดำ ติดที่หน้าร้าน พร้อมเขียนตัวหนังสือ "ขอความเป็นธรรม ฝากเงินกับ ธ.ก.ส.บ้านตาขุน แล้วเงินหาย นานกว่า 6 เดือนแล้ว รับปากจะเยียวยา แต่เงียบ" ก่อนที่ นายพยุงศักดิ์ โภคภิรมย์ ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสุราษฎร์ธานี และ น.ส.ศริญดา ปาลดนชนทร์ ปลัดอาวุโส อ.บ้านตาขุน เข้าทำความเข้าใจ และหาแนวทางการช่วยเหลือ

 

 

นางศุภธียา กล่าวว่า ตนได้ฝากเงินไว้กับ ธ.ก.ส.สาขาบ้านตาขุน เป็นเงิน 2,033,303.34 บาท แต่ได้ถูกกลุ่มมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นพนักงานธนาคาร โทรมาขอ Application ของธนกราคารโดยอ้างว่ามีการใช้โทรศัพท์ 2 เครื่องให้เหลือเพียงเครื่องเดียว ซึ่งคนรับครั้งสุดท้ายเป็นหลานของตนได้บอกไป และหลังจากนั้น เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.62 กลุ่มมิจฉาชีพได้โอนเงินออกจากบัญชีไป 14 ครั้ง เป็นเงินกว่า 1,020,020 บาท โดยที่ตนไม่รู้ตัวจึงได้เข้าแจ้งความ และรีบอายัติบัญชี รวมทั้งได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมกับธนาคารเพื่อให้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นตั้ง แต่หลังเกิดเหตุธนาคารได้รับปากที่จะให้การช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เวลาผ่านไปกว่า 6 เดือน ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน

 

ด้าน นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบการเงินทุกขั้นตอน พบว่าถูกโอนไป 3 เส้นทาง คือบัญชีแรกโอนด้วยระบบพร้อมเพลย์เข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพัฒนาการ เป็นเงิน 5 แสนบาท และได้ถูกโอนต่อไปที่บัญชีธนาคารกสิกรไทยสาขาแม่สอด จ.ตาก และได้ถอนออกไปจนหมดเกลี้ยง และครั้งที่ 2 ได้โอนเงินผ่านระบบไอโมบาย จำนวน 2 ครั้งครั้งละ 1 หมื่นบาท พร้อมค่าทำเนียมครั้งละ 10 บาท และครั้งที่ 3 ได้โอนเข้าธนาคารกรุงเทพ เป็นเงิน 5 แสนบาท และได้ถูกถอนผ่านตู้เอทีเอ็มของธนาคารต่างๆ รวม 25 ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนได้ออกติดตามการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคาร ธ.ก.ส.ในพื้นที่ อ.เมือง จ.กำแพเพชร จนทราบว่า นายอภอสิทธิ์ ธาระธาน เป็นผู้กระทำความผิดจึงได้ทำการจับกุมตัว และได้ติดตามออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 4-5 รายมาดำเนินคดี ทั้งนี้ยังมีเงินบางส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัติเอาไว้ แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่

 

ทั้งนี้ หลังจากทราบเรื่องว่าเงินหาย ทางธนาคารไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการ 1.นำลูกค้าไปแจ้งความเพิ่มเติมและได้นำไปอายัดบัญชีที่ถูกมิจฉาชีพโอนไปของธนาคารต่างๆ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ 2.ประสานส่วนกลางเพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิดตู้ ATM ที่คนร้ายได้ไปกดเงินสดเพื่อให้เจ้าหน้ที่ตำรวจติดตามคนร้าย ซึ่งปัจจุบันสามารถจับตัวคนร้ายและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว 5 คน อยู่ระหว่างสอบสวนเพื่อขยายผลทางคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ 3.ส่วนของธนาคาร สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ทำบันทึกรายงานข้อเท็จจริงไปยังธนาคารผ่านฝ่ายกิจการสาขาภาคใต้ตอนบนเพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารได้แต่ตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อมูล เพื่อดูแลลูกค้าหากพบว่าเกิดความบกพร่อง จากระบบธนาคาร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการระดับธนาคารต่อไป

 

 

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง