รีเซต

เปิดตำราลงทุน "ทองคำ" สินทรัพย์ "สามัญประจำบ้าน"

เปิดตำราลงทุน "ทองคำ" สินทรัพย์ "สามัญประจำบ้าน"
TNN ช่อง16
6 มิถุนายน 2568 ( 14:38 )
18

"ทองคำ" เป็นสินทรัพย์ที่มีอายุยาวนานมากที่สุดสินทรัพย์หนึ่งในโลก มีงานวิจัยระบุว่ามนุษย์รู้จักการใช้ทองคำมานานกว่า 4,000-6,000 ปี ไปจนถึงกลักหมื่นปีเลยก็มี ซึ่งบทบาท และสถานะของทองคำได้เปลี่ยนแปลง และมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง จากสิ่งของเครื่องใช้กลายเป็นเครื่องประดับ สู่ตัวกลางของการซื้อขายแลกเปลี่ยน เป็นสิ่งที่ใช้ค้ำประกันสกุลเงินต่าง ๆ จนกลายมาเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ

ในปี 2567 มีความต้องการใช้ทองคำบนโลกมากถึงเกือบ 4,800 ตันต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณความต้องการที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการใช้ของประชาชนทั่วไป จนถึงระดับประเทศ เป็นภาพสะท้อนถึงความสำคัญของทองคำในฐานะสินทรัพย์ลงทุนหลักอันดับต้น ๆ ของโลก

โดยในประเทศไทยเองก็เช่นเดียวกัน มีหลักฐาน และประวัติศาสตร์ในการใช้ทองคำ และผูกพันกับสังคมไทยมายาวนาน จนในปัจจุบันทองคำก็ยกระดับจากเครื่องประดับขึ้นมาเป็น "สินทรัพย์" ที่คนไทยให้ความนิยมในการถือครอง สามารถลงทุน หรือพักเงิน และนำมาใช้งานได้จริงในเวลาเดียวกัน ซึ่งประเทศไทยเองก็ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความต้องการทองคำสูงมาก ๆ ในแต่ละปี

แต่ถ้ามองในภาพรวมของการลงทุน ทองคำถูกมองว่าเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" หรือ Safe Haven หรือสินทรัพย์ลงทุนที่มีโอกาสในการรักษามูลค่า หรืออาจจะเพิ่มมูลค่าในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจผันผวน มีความไม่แน่นอน หรือตกต่ำ ไม่ว่าจะจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ นักลงทุนส่วนใหญ่จะมีการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกเพื่อย้ายเงินนั้นมายังสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หรือใช้ในการพักเงิน หรือหลบภัยได้ในทุกวิกฤติที่ผ่านมา สะท้อนถึงราคาทองคำที่จะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างโดดเด่นในภาวะวิกฤติเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ค่าเงิน หรือหุ้นสามัญ และในระบบการเงิน การคลังระหว่างประเทศ ทุก ๆ ประเทศก็มีการใช้ทองคำเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งในบางประเทศมีการสะสมทองคำในสัดส่วนที่สูงมากกว่าการถือครองเงินด้วยซ้ำไป เช่นสหรัฐอเมริกา เยอรมัน อิตาลี และฝรั่งเศส เป็นต้น

เพราะฉะนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ลงทุนที่จำเป็นสำหรับการลงทุนในระดับบุคล หรือครอบครัว เพราะในมื่อประเทศยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ถือครองทองคำ แล้วทำไมเราถึงไม่ถือครองทองคำ และอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ลงทุน "สามัญประจำบ้าน" คือการเข้าถึงที่ง่ายของทองคำ ไม่มีความซับซ้อน สามารถซื้อขาย หรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย รวดเร็ว เปรียบเสมือนการถือครองเงินสด และที่สำคัญราคาทองคำก็มีการเคลื่อนไหวที่สูงขึ้นต่อเนื่องสามารถใช้เป็นสินทรัพย์ที่ป้องกัน "เงินเฟ้อ" ได้ด้วย

แล้วการลงทุนทองคำในปัจจุบันก็สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการถือครองทองคำจริง ๆ หรือ "Physical Gold" ไปจนถึงการถือหน่วยลงทุนในกองทุนทองคำ ซึ่งก็มีทั้งกองทุนที่ถือครองทองคำจริง ๆ หรือกองทุนที่ไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนทองคำอีกทอดหนึ่ง โดยให้เลือกมากมายทั้งกองทุนในรูปแบบของ RMF, ETF หรือแม้กระทั่งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็มีการเปิดให้ลงทุนในกองทุนทองคำเช่นเดียวกัน ซึ่งการลงทุนทองคำแต่ละรูปแบบก็จะมีความแตกต่างกันไปตามความต้องการของแต่ละบุคคล

แต่การลงทุนในทองคำนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยเพียงอย่างเดียว ในปัจจุบันราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวที่ผันผวนตามปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เข้ามามีผลกระทบอย่างรอบด้าน และด้วยรูปแบบของการซื้อขายทองคำในลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่ถูกออกแบมาให้สามารถลงทุนเพื่อซื้อทองคำจริง ๆ ได้ และเป็นการเก็งกำไรในส่วนต่างของราคา ซึ่งการลงทุนในลักษณะนี้ก็มีอัตราทด หรือ Leverage ที่สูง สามารถเพิ่มพลังการลงทุนให้สูงขึ้นได้ แต่ก็สามารถสร้างผลขาดทุนได้อย่างมหาศาลด้วยเช่นเดียวกกัน ก็ทำให้ทองคำถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในเรื่องของการลงทุน

การถือครองทองคำไม่ว่าในลักษณะใดไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ หรือหน่วยลงทุนในทองคำก็ถือว่าเป็นการถือครองทั้งสินทรัพย์ปลอดภัย และเป็นสินทรัพย์เสี่ยงในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นเราก็จำเป็นที่จะต้องลงทุน หรือถือครองทองคำ หรือวางแผนในการลงทุนทองคำอย่างเป็นระบบด้วยเช่นเดียวกัน และที่สำคัญจำเป็นที่จะต้องประเมินความเสี่ยงจากการลงทุนที่เราสามารถยอมรับได้อีกด้วย

และถึงแม้ว่าในช่วงระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 600% จากระดับราคาที่ประมาณ 8,500 บาท ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50,000 บาท สร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่โดดเด่นกว่าหลาย ๆ สินทรัพย์ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราควรลงทุนทองคำในสัดส่วนที่สูงมาก หรือทั้งหมดของเงินลงทุนที่เรามี เพียงเพราะต้องการผลตอบแทนในระดับที่สูงเพียงอย่างเดียว เราจำเป็นที่จะต้องจัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับทั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ รวมถึงช่วงอายุที่เหมาะสมกับความเสี่ยงในระดับต่าง ๆ อีกด้วย

เช่นเมื่อสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมีการชะลอตัวลง มีปัญหาความขัดแย้ง หรือกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน การลงทุนในทองคำก็สามารถปรับสัดส่วนให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นได้ แต่ถ้าหากสภาวะเศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง การค้า การลงทุนเติบโต ก็อาจจะปรับสัดส่วนการลงทุนในทองคำลงเพื่อนำไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในช่วงเวลานั้น เช่น หุ้นสามัญ เป็นต้น

ในขณะที่ถ้าเราสามารถรับความเสี่ยงได้มาก มีกรอบระยะเวลาในการลงทุนที่ยาว โดยไม่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปแบบของเงินปันผล หรือดอกเบี้ยก็สามารถที่จะลงทุนในทองคำในสัดส่วนที่สูงขึ้นได้ หรือถ้าเรามีอายุยังน้อยก็สามารถที่จะรับความเสี่ยงได้สูงกว่าคนที่อายุมาก ๆ ก็อาจจะสามารถลงทุนทองคำในสัดส่วนที่สูงขึ้น ซึ่งในวิธีนี้สามารถนำมาปรับใช้กับการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ด้วยในการปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมตามช่วงอายุที่ทำงาน

รวมถึงการใช้สัดส่วนการลงทุนในทองคำที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนที่วางแผนไว้ เช่นหากเป็นการลงทุนเพื่อเป้าหมายในระยะสั้นเช่น 1-3 ปี สัดส่วนของทองคำก็อาจจะน้อยกว่าการลงทุนเพื่อเป้าหมายในระยะยาว เนื่องจากทองคำในบางช่วงเวลาก็อาจจะทำผลตอบแทนได้น้อยกว่าสินทรัพย์อื่น แต่ในระยะยาวทองคำก็อาจจะมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้ ก็สามารถที่จะปรับสัดส่วนการลงทุนให้มีความเหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ได้

รวมถึงการพิจารณาในการใช้กลยุทธ์ในการถือครองทองคำก็มีความสำคัญด้วยเช่นเดียวกัน เราสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ได้หลากหลาย เช่น การทยอยซื้อ หรือสะสมทองคำเท่ากันอย่างสม่ำเสมอ หรือกลยุทธ์ DCA เช่นการสะสมทองคำทุกเดือนในช่วงเวลาเดียวกัน และมูลค่าเท่า ๆ กัน ไม่ว่าราคาทองจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลง ก็จะสามารถที่จะได้ต้นทุนในการถือครองทองคำที่สะท้อนความเป็นจริงได้มากที่สุด ซึ่งก็เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ได้รับความนิยม

หรือการใช้กลยุทธ์ในการลงทุนในลักษณะของการจับช่วงเวลาของตลาด หรือ Market Timing ที่จะพิจารณาการเข้าซื้อทองคำจากระดับราคา โดยจะจับจังหวะที่ราคาทองคำอยู่ในลักษณะที่ย่อตัวลงเพื่อตัดสินใจเข้าซื้อ เพื่อให้ได้ต้นทุนการถือครองทองคำที่ต่ำที่สุด แต่กลยุทธ์นี้ก็มีข้อจำกัดตรงที่เราต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในกาารวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ เพื่อให้สามารถคาดการณ์แนวโน้ม หรือทิศทางราคาทองคำได้อย่างแม่นยำ

การลงทุนทองคำถึงแม้จะใกล้ตัว เข้าถึงง่าย เป็นเหมือนสินทรัพย์ประจำทุกบ้าน แต่ก็มีความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่เช่นเดียวกัน การลงทุนในทองคำนั้นก็จำเป็นที่จะต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำ รวมถึงมีการวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน เพื่อที่จะช่วยให้การลงทุนในทองคำ สามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงให้กับเราได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง