เฝ้าระวังโรคหัดระบาดชายแดน ป่วยเพิ่มขึ้นในภาคเหนือ ทั่วปท. สะสมเกือบ 2 พันราย

วันนี้ ( 21 พ.ย. 68 )นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "โรคหัด" ที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านชายแดนที่พบการระบาดเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบถึงประเทศไทย
สถานการณ์โรคหัดในไทยน่ากังวล
รองโฆษกฯ อัยรินทร์ กล่าวว่า สถานการณ์โรคหัดในประเทศไทยยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยข้อมูลจากปี 2568 พบว่ามีรายงานผู้ป่วยไข้ออกผื่นที่สงสัยหัด หรือหัดเยอรมัน สะสมสูงถึง 1,928 ราย
ผู้ป่วยโรคหัดที่มีความเชื่อมโยงทางระบาดวิทยา: จำนวน 511 ราย
ผู้ป่วยที่มีภาวะปอดอักเสบ: จำนวน 23 ราย
นอกจากนี้ ในช่วงเดือน กันยายน - ตุลาคม 2568 ยังพบรายงานผู้ป่วยสงสัยโรคหัดอีก 46 ราย ซึ่งพบได้ในทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่เด็กเล็ก เด็กโต ไปจนถึงผู้ใหญ่ โดยพบประปรายในหลายจังหวัด ได้แก่ ระยอง พิษณุโลก หนองคาย อำนาจเจริญ นครปฐม นครศรีธรรมราช ยะลา นราธิวาส และสงขลา
ภาคเหนือพบกลุ่มก้อนโรค เชื่อมโยง สปป.ลาว
สถานการณ์ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือในพื้นที่ ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัด เชียงราย ที่พบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนทั้งในโรงพยาบาลและชุมชน ผู้ป่วยส่วนหนึ่งมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการระบาดของโรคหัดใน แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และมีการตรวจพบผู้ป่วยจาก สปป.ลาว เข้ารับการรักษาในจังหวัดเชียงราย
รัฐบาลย้ำ "วัคซีน" คือมาตรการสำคัญ
นางสาวอัยรินทร์ ระบุว่า ประเทศไทยมีมาตรการเรื่องวัคซีนเพื่อควบคุมการระบาดของโรคหัด อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญคือ จังหวัดที่มีการครอบคลุมวัคซีนไม่ถึงเกณฑ์มีมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ
จึงขอเน้นย้ำและเรียกร้องให้ ประชาชน พ่อแม่ และผู้ปกครอง ทุกท่านตระหนักถึงความสำคัญ และโปรดพาบุตรหลานเข้ารับวัคซีนตามกำหนด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง และป้องกันตนเองและชุมชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
