รีเซต

‘ททท.’ งัดไม้เด็ดดันท่องเที่ยวหลังหมดโควิด-19 ใช้ธรรมชาติฟื้นตัวเป็นจุดแข็ง ดึงท่องเที่ยวดีดตาม

‘ททท.’ งัดไม้เด็ดดันท่องเที่ยวหลังหมดโควิด-19 ใช้ธรรมชาติฟื้นตัวเป็นจุดแข็ง ดึงท่องเที่ยวดีดตาม
มติชน
7 พฤษภาคม 2563 ( 09:09 )
566
2
‘ททท.’ งัดไม้เด็ดดันท่องเที่ยวหลังหมดโควิด-19 ใช้ธรรมชาติฟื้นตัวเป็นจุดแข็ง ดึงท่องเที่ยวดีดตาม

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกสูงมาก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และภาคการบริการ เป็นอุตสาหกรรมแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากโรคระบาดทำให้ทุกคนต้องป้องกันตนเอง ด้วยการงดเว้นการเดินทาง เพื่อทำตามนโยบายของภาครัฐในการหยุดเชื้อเพื่อชาติ ทำให้ททท. ต้องประเมินวิกฤตที่เกิดขึ้น เพื่อหาทางพลิกให้เกิดโอกาสขึ้นซึ่งการที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดและเกิดการจำกัดการเดินทางนั้น ทำให้ต้นทุนทางธรรมชาติของประเทศฟื้นฟูกลับมาดีมากขึ้น จากเดิมที่ดีอยู่แล้ว โดยหากทรัพยากรทางธรรมชาติกลับมาดีมากกว่าเดิม และมาพร้อมกับความมั่นใจในด้านสุขอนามัย รวมถึงความปลอดภัยทั้งในแง่ทรัพย์สินและชีวิต ซึ่งมองว่าประเทศที่สามารถบริหารจัดการทั้งทรัพยากรทางธรรมชาติ ความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและทรัพย์สินชีวิตไปพร้อมกันได้ เชื่อว่าจะสามารถฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาดีดตัวขึ้น (รีบาวด์) ได้อย่างรวดเร็วแน่นอน โดยททท.ได้เตรียมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ไม่ตํ่ากว่า 1 พันแห่ง และวางแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวไว้แล้ว ซึ่งหากไวรัสคลายตัวใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ จะดำเนินการตามแผนได้ทันที

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ททท.ทำงานร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ในส่วนของการดำเนินงานต่อในระยะถัดไป และหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อให้สามารถพยุงธุรกิจให้ผ่านช่วงวิกฤตไปได้ก่อน โดยได้พยายามทางช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงมาตรการเยียวยาได้มากที่สุด และตรงตามความต้องการมากที่สุด โดยเฉพาะการเสริมสภาพคล่องผ่านมาตรการแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน์) ของธนาคารออมสิน วงเงินกว่า 12,000 ล้านบาท ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ที่เริ่มได้รับผลกระทบบ้างแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการประสานกับสมาคมในภาคการท่องเที่ยวกว่า 20 สมาคม เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ให้ได้มากที่สุด

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ที่ผ่านมาททท.ได้ประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อเปิดตัวโครงการตราสัญลักษณ์ “Amazing Thailand Safety and Health Administration” (ตราสัญลักษณ์ SHA ) ซึ่งจะใช้เป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยได้ดำเนินการภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สธ. และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวมั่นใจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากขณะนี้ หากจะเริ่มเกิดการกลับมาเดินทางอีกครั้ง นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงคนทั่วไปจะต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้านสุขภาพและสุขอนามัยเป็นหลัก และรูปแบบการท่องเที่ยวก็จะเปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นสิ่งปกติใหม่หรือ นิวนอร์มอล ไทยจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมในด้านของการเพิ่มมาตรฐานให้กับภาคการท่องเที่ยวไทย เพื่อรองรับการกลับมาเดินทาง และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

ในอนาคตภาคการท่องเที่ยวจะเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ททท.และภาคเอกชนจะต้องทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะการเพิ่มศักยภาพในการทำงานของแรงงานในภาคการบริการ และมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยว เพราะหากสามารถเตรียมทุกอย่างไว้ดีและพร้อมแล้ว การกลับมาฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว คงทำได้ไม่ยากนัก เนื่องจากประเทศไทยยังคงอยู่ในอันดับต้นๆ ที่ชาวต่างชาติต้องการเดินทางมาท่องเที่ยว หากสามารถบริหารจัดการให้ภาคการท่องเที่ยวมีมาตรฐาน มีความเชื่อมั่นทั้งในแง่สุขอนามัยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้ ทุกอย่างจะฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วนางสาวฐาปนีย์กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง