"เงินหมื่นระยะ3" อยู่ระหว่างเชื่อม"วอลเล็ต"

ผู้สื่อข่าวจากทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า ความคืบหน้าของโครงการโอนเงิน 10,0000 บาท ระยะ 3 ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับกลุ่มอายุ 16-20 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งใช้งานผ่านแอพพลิเคชัน "ทางรัฐ" ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นผู้ดูแล และพัฒนา โดยรายงานผลการทดสอบระบบล่าสุดนั้น เป็นไปได้ด้วยดี ยังไม่พบปัญหาอะไร สามารถใช้งานได้ปกติ
สำหรับกระบวนการหลังจากนี้ คือรอการเชื่อมระบบดิจิทัลวอลเล็ต กับสถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินของรัฐ (แบงก์รัฐ) คาดว่าไม่มีปัญหา แต่รอความพร้อมจากทุกฝ่าย เพื่อให้ระบบสมบูรณ์ และมีความครบถ้วน ทั้งนี้ ยืนยันว่าเงินดิจิทัลเฟส 3 จะโอนภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 แน่นอน
ขณะที่ประชาชนกลุ่มถัดไป คือกลุ่มอายุ 21-59 ปี หรือระยะ 4 นั้น เชื่อว่าอีกไม่นานน่าจะมีความชัดเจน คาดว่าไม่เกินไตรมาสที่ 3 ปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีเม็ดเงินสำหรับโครงการดิจิทัลที่เหลืออยู่ราย 130,000-140,000 ล้านบาท ที่ผูกพันงบประมาณไว้ ว่าจะต้องใช้ภายในปีงบ 2568 หรือภายในสิ้นเดือนกันยายน 2568
ทั้งนี้ จะเป็นช่วงเวลาไหนในไตรมาสที่ 3 ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพื่อรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากรวมทั้งสิ้นมีประชาชนผ่านเงื่อนไขเกินวงเงินงบที่มีอยู่ ยืนยันว่ารัฐบาลมีวิธีที่จะดูแล
ทั้งนี้ จากการโอนเงิน 10,000 บาท ในระยะ 1-2 ยืนยันว่าสามารถช่วยการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยเงิน 10,000 บาท ระยะ 1 วัดจากเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ซึ่งเป็นวันแรก ของการโอนเงิน 10,000 บาท มีการถอนเงินจาก ตู้เอทีเอ็มของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพิ่มขึ้น 18.8 เท่าตัว เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
ขณะที่สถิติการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มของ ธ.ก.ส.ในวันที่ 27 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นวันแรกของการโอนเงิน 10,000 บาทระยะ 2 นั้น สูงกว่าวันก่อนหน้าถึง 13.28 เท่าตัว ทำให้เม็ดเงินเกิดการหมุนเวียน และเป็นแรงส่งสำคัญช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการขยายตัว