รีเซต

บิ๊กอ๊อด รับไทยลีก อาจเลื่อนยาวถึง ส.ค. มึนเตรียมทัพช้างศึกลุยดวลแข้ง ซูซูกิคัพ

บิ๊กอ๊อด รับไทยลีก อาจเลื่อนยาวถึง ส.ค. มึนเตรียมทัพช้างศึกลุยดวลแข้ง ซูซูกิคัพ
มติชน
4 เมษายน 2563 ( 18:08 )
107
บิ๊กอ๊อด รับไทยลีก อาจเลื่อนยาวถึง ส.ค. มึนเตรียมทัพช้างศึกลุยดวลแข้ง ซูซูกิคัพ

บิ๊กอ๊อด รับไทยลีก อาจเลื่อนยาวถึง ส.ค. มึนเตรียมทัพช้างศึกลุยดวลแข้ง ซูซูกิคัพ

สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้รัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม-30 เมษายน ส่งผลถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และบริษัท ไทยลีก จำกัด ต้องเลื่อนการแข่งขันฟุตบอลลีกภายในประเทศออกไปจนถึงวันที่ 2-3 พฤษภาคมนั้น

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานข่าวว่า การประชุมสภากรรมการ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 เมษายนนี้นั้น จะมีการหารือเพื่อความชัดเจนในเรื่องการกำหนดการแข่งขัน ซึ่งมีแหล่งข่าวเปิดเผยว่า การแข่งขันไทยลีกอาจจะต้องเลื่อนออกไปจนถึงเดือนสิงหาคมเป็นอย่างน้อย ส่วนรูปแบบการแข่งขัน จะเป็น 2 เลก หรือเลกเดียว ก็ต้องมีการพูดคุยกัน รวมถึงถ้าเลื่อนถึงสิงหาคม อาจจะต้องตัดฟุตบอลถ้วยออกรายการหนึ่ง

ด้าน “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า เดิมทีแผนที่วางไว้จะกลับมาเตะต้นเดือนพฤษภาคม แต่จากการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามคนชุมนุมกัน ก็ทำให้สโมสรไม่สามารถรวมทีมซ้อมหรืออุ่นเครืื่องเตรียมทีมได้ ดังนั้นเชื่อว่าฟุตบอลลีกก็ต้องยืดระยะเวลาออกไปอีก เพราะทีมจะขาดความพร้อมในเรื่องแท็คติก รวมถึงสภาพความฟิตของนักเตะ ที่ตามหลักต้องใช้ 6 สัปดาห์ในการเตรียมความพร้อม ดังนั้นถ้าพ้นพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วจะเตะทันทีเป็นไปไม่ได้
“ที่สำคัญคือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในไทยไม่มีทีท่าว่าจะจบลงในเร็ววัน เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสุดท้ายแล้วรัฐบาลจะมีมาตรการอะไรออกมาอีกบ้าง เพราะอย่าลืมว่าพรก.ฉุกเฉินสามารถประกาศใช้ได้สูงสุด 90 วัน ตอนนี้เพิ่งประกาศไปเพียง 30 วัน ยังเหลือให้ใช้ได้อีกถึง 60 วัน ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะมีการยืดเวลาในการใช้พรก.ฉุกเฉิน ซึ่งจะส่งผลต่อฟุตบอลลีกไทยที่อาจจะต้องเลื่อนแข่งออกไปอีก”

ประมุขลูกหนังไทย กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเชื่อว่าอย่างเร็วที่สุดฟุตบอลลีกของไทยจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งน่าจะเป็นในเดือนสิงหาคม หรืออย่างเร็วที่สุดในเดือนกรกฎาคม นั่นทำให้โปรแกรมแข่งฟุตบอลลีกในประเทศจะถี่ยิบเราอาจจะต้องยกเลิกฟุตบอลถ้วยในบางรายการ อาทิเช่น ฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวเสริมว่า ในส่วนฟุตบอลทีมชาติ ซึ่งปลายปีมีการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เชื่อว่าคงไม่สามารถใช้ชุดใหญ่ไปแข่งขันได้ เพราะไม่ใช่ช่วงฟีฟ่าเดย์ และฟุตบอลลีกยังไม่ปิด หรือจะใช้ชุดยู-23 เองก็ยาก เพราะหลายคนเป็นตัวหลักในสโมสรแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีใครยอมปล่อยเช่นกัน ดังนั้นอาจจะต้องเป็นยู-19 ไปเข้าแข่งขันแทน ซึ่งแน่นอนแฟนบอลคงไม่พอใจถ้าผลการแข่งขันไม่ถูกใจ

บิ๊กอ๊อด กล่าวปิดท้ายว่า อย่างไรก็ตามต้องดูสถานการณ์การแพร่ระบาดด้วย เพราะซูซูกิ คัพ มีการออกไปเยือนคู่แข่ง มันก็มีความเสี่ยงได้ทั้งหมด ต้องดูว่าแต่ละประเทศมีความคืบหน้าเรื่องโรคระบาดอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าการส่งทีมเข้าแข่งขันคือสปิริตอย่างหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องส่ง ดังนั้นหวังว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลายเพื่อให้สามารถลงแข่งขันได้แบบไม่มีผลกระทบด้านสุขภาพตามมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง