ผลสำรวจ ชี้ กินเจปีนี้ไม่คึกคัก ขยายตัวต่ำสุดรอบ 13 ปี

วันนี้ (8 ต.ค.63) นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ระหว่างวันที่ 17-25 ตุลาคม จากกลุ่มตัวอย่าง 1,393 คน พบว่ากว่า 38.8% ระบุว่าจะเข้าร่วมเทศกาลกินเจ เพราะเป็นคนเชื้อสายจีน ตั้งใจทำบุญ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง ร.9 จึงตั้งใจที่จะกินเจในปีนี้ 

ขณะที่กว่า 61% ระบุว่าไม่ได้ร่วมเทศกาลกินเจปีนี้ เพราะไม่ใช่เชื้อสายจีน และตอนนี้ประสบปัญหาหนี้สินจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของไทยตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาตกต่ำและกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเมืองที่มีการชุมชนต่าง ๆ เกิดขึ้น ทำให้ไม่มีจิตใจที่อยากจะกินเจหรือจับจ่ายใช้สอยมากนัก รวมทั้งกังวลและไม่รู้ว่าจะตกงานตามภาวะเศรษกิจซบเซาหรือไม่และอาหารเจมีราคาสูงขึ้น 

ทั้งนี้ ประเมินว่ามีการใช้จ่ายต่อคนในกลุ่มคนกินเจปีนี้ทั้งกินเจและท่องเที่ยว 11,400 บาท คิดเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้รวมอยู่ที่ 46,967 ล้านบาท ขยายตัว 0.9% ถือเป็นตัวเลขต่ำสุดในรอบ 13 ปี โดยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านเทศกาลกินเจมีมูลค่าอยู่ที่ 46,549 ล้านบาท ขยายตัว 1.3% 

ผลสำรวจระบุว่า พรที่ผู้กินเจขอในปีนี้ เช่น ขอให้รัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง ขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ อยู่ดีมีสุข ขอให้ประเทศมีการพัฒนาเศรษฐกิจดีขึ้น ปราศจากโควิด-19 มีความรักสามัคคี มีความสงบสุข ลดความขัดแย้ง ปราศจากคนโกง ขอให้ตัวเองและครอบครัว มีความสุข ประสบแต่สิ่งที่ดีงาม แคล้วคลาด ปลอดภัย ขอให้กินดีอยู่ดีมีเงินใช้ มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา หมดหนี้หมดสิน ขอให้กิจการเจริญรุ่งเรือง ค้าขายดี มีความเจริญก้าวหน้า การงานมั่นคง พบเจอแต่สิ่งที่ดี เจอคนดี ๆ ในชีวิต เป็นต้น