รีเซต

HMPRO กำไรตามคาด 1.6 พันล. +6.57% งวด 6 เดือน กำไร 3.23 พันล. โต 6.60%

HMPRO กำไรตามคาด 1.6 พันล. +6.57% งวด 6 เดือน กำไร 3.23 พันล. โต 6.60%
ทันหุ้น
25 กรกฎาคม 2566 ( 10:41 )
115

 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 มีกำไรสุทธิ 1,619.87 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท เพิ่มขึ้น 6.57% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,520.07 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท

 

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน 2566 มีกำไรสุทธิ 3,230.99 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.25 บาท เพิ่มขึ้น 6.60% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,031.02 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.23 บาท

 

บริษัทชี้แจงว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 ปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัว จากการบริโภคของภาคเอกชนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจัยหลักยังคงมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีรายได้สูงขึ้น และเกิดการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังคงดูสดใส ในช่วงปลายไตรมาส 2 ผู้บริโภคยังมีความกังวลต่อผลกระทบจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางด้านการเมือง ในเรื่องความล่าช้าของการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา รวมถึงผลกระทบของยอดส่งออกที่ลดลงจากอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้ภาคธุรกิจยังคงต้องระมัดระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงวางแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่รัดกุมและเหมาะสม

 

ในช่วงไตรมาส 2 นั้น เป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย โดยในปีนี้ ค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม ส่งผลให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของบริษัทฯ ในกลุ่มเครื่องทำความเย็น อาทิ เครื่องปรับอากาศ พัดลม และ พัดลมไอน้ำ เติบโตสูงขึ้นกว่าปกติ อีกทั้งบริษัทฯยังได้มีการจัดแคมเปญ 'เก่ามีค่า นำมาแลกใหม่' หรือ 'Trade-in' ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการจำหน่ายสินค้า รวมทั้งส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน โดยลูกค้าสามารถนำสินค้าชิ้นเก่า อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปั๊มน้ำ เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ มาแลกรับสวนลดในการซื้อสินค้าชิ้นใหม่ในประเภทเดียวกันได้ ทำให้ภาพรวมยอดขายในช่วงไตรมาส 2 ปี 2566 มีการเติบตสูงขึ้นทั้งในส่วนของสาขาและออนไลน์ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบบางส่วนจากการที่ในช่วงไตรมาส 2 นั้น มีวันหยุดนักขัตฤกษ์หลายวัน และจากการที่ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงเดือนมิถุนายน โดยมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของโครงการก่อสร้างต่างๆ ก็ตาม

 

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทฯ ยังคงเผชิญกับความกดดันในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อาทิ ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการเตรียมเปิดสาขาใหม่จำนวน 3 สาขา จากการอบรมพนักงานล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวก่อนปฏิบัติงานจริงสำหรับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการผลักดันยอดขายโดยมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กิจกรรม HomePro Super Expo ในวันที่ 5-9 เมษายน 2566 ที่โฮมโปรทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.homepro.co.th รวมถึงมีการจัดกิจกรรม Double Day และกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ ที่สาขาและช่องทางออนไลน์อย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายและเพิ่มความได้เปรียบของการแข่งขันทางการตลาด

 

สำหรับการขยายสาขาในตรมาสที่ 2 ยังคงดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้ โดยบริษัทฯ มีการเปิดสาขาเมกาโฮมใหม่ จำนวน 3 สาขา ได้แก่ สาขานครปฐม เชียงใหม่ และบางแสน รวมถึงมีการปิดโฮมโปร สาขาโลตัส บางแค เพื่อเตรียมเปิดสาขาใหม่สำหรับช่วงไตรมาสที่ 3 ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 บริษัทฯ มีโฮมโปร 86 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 24 สาขา และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 7 สาขา

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง