รีเซต

ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อก ปรับ 2,000 เริ่ม 1 มิ.ย. 68

ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อก ปรับ 2,000 เริ่ม 1 มิ.ย. 68
TNN ช่อง16
1 มิถุนายน 2568 ( 11:39 )
18

เริ่ม 1 มิ.ย. 2568 บังคับใช้โทษปรับใหม่ ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อก โดนปรับสูงสุด 2,000 บาท คนขับรับผิดกรณีคนซ้อนไม่ใส่หมวกด้วย


ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อก เสี่ยงเจอปรับสูงสุด 2,000 บาท เริ่ม 1 มิ.ย. นี้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมาตรการเข้มข้นภายใต้ “โครงการถนนปลอดภัย” เพื่อสร้างวินัยจราจรทั่วประเทศ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ซึ่งเน้นย้ำชัดเจนว่า ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกกันน็อก 100% หากฝ่าฝืนจะถูกปรับตามกฎหมายใหม่

รายละเอียดโทษปรับจากกฎหมายใหม่

ประเภทการฝ่าฝืน โทษปรับสูงสุด

  • ขี่หรือซ้อนจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่เกิน 2,000 บาทต่อคน
  • คนซ้อนไม่ใส่หมวก คนขับรับผิดเพิ่มเติม ปรับเพิ่ม 2 เท่า (สูงสุด 4,000 บาท)

โดยอ้างอิงตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 122 และระเบียบเพิ่มเติมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติปี 2568

บังคับใช้จริงใน 94 จุดทั่วประเทศ

จุดตรวจเข้มเริ่มต้นใน ถนนหน้าโรงเรียน ทางหลวงหลัก และถนนที่มักเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งหมด 94 จุดทั่วประเทศ โดยตำรวจจราจรและตำรวจทางหลวงจะร่วมกัน ตั้งด่านตรวจหมวกกันน็อกทุกวัน และดำเนินคดีทุกกรณีอย่างไม่มีข้อยกเว้น

เหตุผลสำคัญที่ต้องใส่หมวกกันน็อก

การสวมหมวกกันน็อกไม่เพียงเป็นเรื่องของกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็น การป้องกันชีวิตของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร จากอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการปกป้องศีรษะซึ่งเป็นอวัยวะที่เสียหายรุนแรงที่สุดเมื่อเกิดการชนหรือกระแทก

ข้อมูลจากหน่วยงานความปลอดภัยบนท้องถนนระบุว่า

“การสวมหมวกกันน็อกสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ได้ถึง 40% และลดการบาดเจ็บรุนแรงถึง 70%”

ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโทษปรับหรือจุดตรวจ สามารถติดต่อได้ที่

 • สายด่วนตำรวจจราจร: 1197

 • ตำรวจทางหลวง: 1193 (ให้บริการ 24 ชั่วโมง)

สรุปมาตรการใหม่

 • ตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2568 เป็นต้นไป ขี่หรือซ้อนมอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อก มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาทต่อคน

 • หาก คนซ้อนไม่ใส่หมวก คนขับต้อง รับผิดชอบเพิ่มเป็น 2 เท่า หรือปรับสูงสุด 4,000 บาท

 • มีจุดตรวจจริง 94 จุดทั่วประเทศ ตำรวจดำเนินคดีจริงทุกราย

 • จุดประสงค์เพื่อ ลดการเสียชีวิตและอุบัติเหตุบนท้องถนน อย่างยั่งยืน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง