รีเซต

ชาวบ้านผวา พบซากหมูบรรจุถุงดำ-ถุงปุ๋ย ลอยติดตลิ่งริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ กว่า 200 กก. หวั่นแพร่โรค

ชาวบ้านผวา พบซากหมูบรรจุถุงดำ-ถุงปุ๋ย ลอยติดตลิ่งริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ กว่า 200 กก. หวั่นแพร่โรค
มติชน
31 พฤษภาคม 2564 ( 11:18 )
121
ชาวบ้านผวา พบซากหมูบรรจุถุงดำ-ถุงปุ๋ย ลอยติดตลิ่งริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ กว่า 200 กก. หวั่นแพร่โรค

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบซากสุกรบรรจุถุงดำและถุงปุ๋ย ลอยอยู่กลางน้ำ บางส่วนเกยตื้นอยู่ริมตลิ่ง อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ บริเวณท่าเรือเจดีย์พุทธคยา บ้านวังกะ หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ใกล้แพจุดตรวจทางน้ำแม่น้ำบีคลี่ ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และแพของหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนวชิราลงกรณ (กาญจนบุรี) คาดว่าจะเป็นหมูที่ติดโรคตาย และเจ้าของชำแหละซากก่อนนำมาทิ้ง จึงหวั่นว่าจะกลายเป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรค

 

 

ทั้งนี้ เมื่อไปถึงพบซากหมูบางส่วนถูกสุนัขและอีกาคาบขึ้นมาแทะกินอยู่ริมฝั่ง บางส่วนบรรจุอยู่ในถุงดำและถุงปุ๋ยลอยอยู่กลางน้ำและเกยตื้นอยู่ริมตลิ่ง ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ เนื่องจากซากหมูเริ่มเน่า จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่เทศบาลวังกะ และปศุสัตว์อำเภอสังขละบุรี ให้มาตรวจสอบ

 

 

ต่อมา นายรอน สืบยิ้ม รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาล และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อำเภอสังขละบุรี เดินทางมาถึง ก่อนจะทำการจัดเก็บซากหมูทั้งหมด และทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในพื้นที่ที่พบซากสุกร และบริเวณโดยรอย โดยพบซากสุกรทั้งหมด 6 ถุง น้ำหนักรวมกันกว่า 200 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่เทศบาลจึงนำซากหมูทั้งหมดขึ้นรถยนต์นำไปกำจัดอย่างถูกวิธี

 

 

นายรอนกล่าวว่า จะทำการสืบหาเจ้าของซากสุกรเพื่อลงโทษตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากการนำซากสุกรมาทิ้งในแหล่งน้ำ คู คลองสาธารณะ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคเช่นนี้ถือว่ามีความผิด พร้อมทั้งฝากไปถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู หากพบว่าสุกรที่เลี้ยงไว้มีอาการป่วย สามารถแจ้งปศุสัตว์อำเภอให้เข้าไปดูแล ทำการรักษาได้ เพื่อป้องกันการระบาดของโรค หรือถ้าหากสุกรล้มตาย หลังแจ้งปศุสัตว์อำเภอแล้วไม่สามารถกำจัดซากสุกร สามารถแจ้งเทศบาลให้เข้าช่วยจัดเก็บซากสุกร เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีได้ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันโรคสุกรที่ระบาดในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ในขณะนี้ ซึ่งที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันพบว่ามีสุกรในพื้นที่ล้มตายไปแล้วกว่า 170 ตัว สร้างความสูญเสียให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเป็นมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรีกำลังเร่งหาทางช่วยเหลือเยียวยา

 

 

ด้านนายไพรัตน์ อ่อนจันทร์ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนวชิราลงกรณ (กาญจนบุรี) เปิดเผยว่า ซากหมูที่เห็นน่าจะมีคนนำแอบเอามาทิ้งในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เนื่องจากเมื่อวานนี้ตนขับเรือตรวจการทำประมงผิดกฎหมายผ่านมาในพื้นที่นี้ยังไม่พบซากหมูดังกล่าว หรือไม่อาจนำมาทิ้งก่อนหน้านี้ แต่จมน้ำอยู่ จนเมื่อเริ่มเน่าจึงลอยขึ้นมาผิวน้ำก่อนถูกกระแสลมพัดลอยมาติดฝั่ง

 

 

“ฝากเตือนประชาชนอย่าทำพฤติกรรมเช่นนี้ เนื่องจากอาจเป็นการทำให้เกิดการระบาดของโรคสู่แหล่งน้ำและปลาที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารโปรตีน ราคาถูกของประชาชนในพื้นที่ รอบๆ อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ” นายไพรัตน์กล่าว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง