แพทย์นิติเวช เผยข่าวดี จะเบิกค่า swab จากศพได้แล้ว หลังโพสต์ยอดตัวเลข ยันไร้หมอผู้ใหญ่ตำหนิ
หลังจาก นายแพทย์สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยที่อาจรุนแรงยิ่งกว่าตัวเลขที่รัฐบาลเปิดเผยออกมา เนื่องจากการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตเพียงวันเดียวพบถึง 4 ราย โดยสวนใหญ่พบอยู่ในชุมชนแออัดนั้น
ล่าสุด วันนี้ (8 กรกฎาคม) นายแพทย์สมิทธิ์ เปิดเผยว่า หลายคนเป็นห่วงที่ตนโพสต์เรื่องดังกล่าวจะกระทบการทำงาน ยืนยันว่าไม่มีใครตำหนิ ทั้งฝ่าย รพ.รามาธิบดี หรือกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กลับกันคือมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เนื่องจาก สธ.ติดต่อตน ในฐานะนายกสมาคมนิติเวชฯให้ทำหนังสือส่งไป เพื่อเบิกค่า swab จากศพ
นพ.สมิทธิ์ระบุว่า ยาวหน่อยนะครับ ผมได้ไปยื่นเอกสารผลักดันให้ mRNA vaccine เป็นวัคซีนหลักมานะครับ ที่รัฐสภา จริงๆ ไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วละครับ แต่เพิ่งเอามาลง เพราะพอดีไม่ใช่คนริเริ่มแคมเปญนี้ แต่เป็นน้องๆ กลุ่มภาคีบุคลากรสาธารณสุขและกลุ่มหมอไม่ทน ร่วมกันทำ
นพ.สมิทธิ์กล่าวว่า น้องทั้งสองกลุ่มเชิญผมเข้าไปร่วมยื่นด้วยในฐานะกรรมการแพทยสภา และให้ผมช่วยติดต่อ ส.ส.บางพรรค เช่น ของ พปชร.ที่เป็นเพื่อนสวนกุหลาบรุ่นเดียวกัน ต้องบอกเลยว่าขอบใจน้องทุกคนมากที่ทำเเคมเปญนี้ขึ้นมา รวมทั้งเชิญพี่เข้าร่วมด้วย มันช่วยผลักดันอะไรหลายอย่างได้แน่ๆ ถ้าไม่มีพวกน้อง คงไม่มีใครคิดจะทำอะไร (ขอไม่ tag ละกันนะ เป็นโพสต์สาธารณะ 55) นอกจากนี้ยังอยากจะเล่าเรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจให้บางคนลุกขึ้นมาพูดหรือทำอะไร
“เรื่องแรกคือที่ผมไปยื่นนี่ อาจจะมีคนคิดว่าต้องมีแพทย์ผู้ใหญ่ห้ามไม่ให้ทำ จริงๆ ไม่มีเลยนะครับ ทั้งทางแพทยสภา ที่ผมเอาเรื่องนี้เข้าไลน์กลุ่มแพทยสภาซึ่งส่วนใหญ่เป็นแพทย์ผู้ใหญ่ โดยบอกว่าจะไปยื่นเรื่องนี้ ก็ไม่มีคนตำหนินะครับ บางคนสนับสนุนด้วยครับ ส่วนทางรามาฯ ก็ไม่มีใครตำหนิอะไรครับ ก็ต้องขอบคุณอาจารย์ผู้ใหญ่ทุกคนด้วยครับ edit เพิ่มเติม** และขอบคุณกรรมการแพทยสภาที่ออกแถลงการณ์เรื่องนี้มาละครับ ดูในรูปได้เลยครับ
“เรื่องสองคือเรื่องที่ผม post ไป เกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพ แล้วพบว่าน่าจะมีศพที่ตายจากโควิด-19 มากกว่านี้ แต่ยังไม่มีคนรายงาน ซึ่งดูเหมือนเป็นการบอกว่า สธ.รายงานผิด ทำให้เพื่อนทั้งใน FB และ line เป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการทำงานของผม
“แต่สุดท้ายแล้วนะครับ ไม่มีใครตำหนิผมนะครับทั้งทางรามาฯ และ สธ. กลับกันมันเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นด้วยครับ ได้แก่เรื่องที่เบิกค่า swab จากศพไม่ได้ ก็จะเบิกได้ละครับเพราะ สธ.ติดต่อให้ผมในฐานะนายกสมาคมนิติเวชฯ ทำหนังสือไปที่ สธ.
“และอีกเรื่องคือการรายงานจำนวนศพที่เสียชีวิตในลักษณะแบบนี้ กรมควบคุมโรคก็รับทราบแล้วครับ และกำลังเริ่มเก็บข้อมูลครับ ก็ต้องขอบคุณอาจารย์และเจ้าหน้าที่ใน สธ.ด้วยครับ
“edit เพิ่มเติม** ขอบอกไว้ตรงนี้นิดนึงครับ ผมไม่เคยคิดว่ากรมควบคุมโรคปิดบังข้อมูลคนตายเลยนะครับ มันอาจเป็นการสื่อสารที่ฝั่งผมเองอาจแจ้งไปไม่ดีพอด้วยครับ ซึ่งตอนนี้ก็ได้เริ่มแก้ไขกันละครับ
“สุดท้าย อยากสรุปว่า ถ้าท่านพูดในสิ่งที่พบจริง มีประสบการณ์จริงหรือมีความเชี่ยวชาญจริง โดยไม่ตำหนิใครหรือองค์กรใดก่อนที่จะรู้รายละเอียดทั้งหมด ท่านก็ออกมาพูดกันเถอะครับ ดูตัวอย่างผมได้ครับว่ามันมีประโยชน์จริงครับ ทำให้เกิดการพัฒนาได้เลยครับ
“‘If you see something wrong, if you speak out….you can change it.’ from Ethel Kennedy” นพ.สมิทธิ์กล่าว