รีเซต

กทม.เร่งคุมโควิด 3 แคมป์ก่อสร้างกลางกรุง 126 รพ.25 จุดบริการทั่วกรุง พร้อมฉีดวัคซีน มิ.ย.นี้

กทม.เร่งคุมโควิด 3 แคมป์ก่อสร้างกลางกรุง 126 รพ.25 จุดบริการทั่วกรุง พร้อมฉีดวัคซีน มิ.ย.นี้
มติชน
20 พฤษภาคม 2564 ( 14:31 )
52

วันนี้ (20 พ.ค.64) ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ในขณะนี้พบการแพร่ระบาดในพื้นที่แคมป์คนงานก่อสร้าง 3 จุดใหญ่ คือ เขตหลักสี่ 1 จุด และ เขตวัฒนา 2 จุด โดยเขตหลักสี่ กทม.ได้นำแนวทางการควบคุมโรคจาก จ.สมุทรสาคร มาใช้ คือมาตรการการควบคุมโรคลักษณะบับเบิล แอนด์ ซีล (Bubble and Seal) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเจ้าของแคมป์คนงานก่อสร้างในการควบคุมพื้นที่เพื่อให้คนงานทั้งหมดอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายออกไปสู่ภายนอก ควบคู่ไปกับการตรวจแรพพิด เทสต์ (rapid test) หลังจากนี้ 14 วัน และหากพบผู้ป่วยที่มีอาการจะนำออกมาส่งต่อไปยังสถานพยาบาลเพื่อทำการรักษา

 

 

 

 

“ทั้งนี้พบว่าภาพรวมคนงานก่อสร้างในแคมป์คนงานทั้งหมดเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ยังคงสามารถทำงานได้ตามปกติ ซึ่ง กทม.จะเข้าไปให้ความรู้แก่เจ้าของและผู้ดูแลแคมป์คนงานเพื่อให้มีความเข้าใจในการปฏิบัติตนตามสุขลักษณะที่ดี รวมทั้งดำเนินการตรวจเชิงรุกในพื้นที่ชุมชนโดยรอบแคมป์คนงาน ซึ่งมี 6 ชุมชน คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ จะครบทุกชุมชน สำหรับแคมป์คนงานที่เขตวัฒนาทั้ง 2 จุด ได้ส่งผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาทั้งหมดแล้ว และผู้ที่ไม่ติดเชื้อได้จัดให้มีพื้นที่แยกกักตัวเพื่อสังเกตอาการต่อไป” โฆษก กทม.กล่าว

 

 

โฆษก กทม. กล่าวถึงแนวทางการให้บริการวัคซีนในพื้นที่กรุงเทพฯ ในขณะนี้ว่า ปัจจุบัน กทม.อยู่ระหว่างการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่มีความเสี่ยง โดยกลุ่มเป้าหมายนี้ รวมถึงบุคลากรที่ต้องทำหน้าที่ประจำโรงพยาบาล (รพ.) สนาม และสถานที่กักตัวต่างๆ ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในขณะนี้ด้วย นอกจากนี้ ได้ฉีดให้แก่กลุ่มอาชีพเสี่ยงผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะที่ในแต่ละวันต้องมีความเกี่ยวข้องกับประชาชนจำนวนมาก และจะเพิ่มในส่วนของพนักงานขนส่งในกลุ่มอื่นๆ ซึ่งเมื่อครบตามที่กำหนดจะขยายการให้บริการไปยังกลุ่มอื่น

 

 

“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรัฐบาลจะจัดจัดสรรวัคซีนให้ กทม.เพิ่มเติม เนื่องจากพบว่ามีหลายคลัสเตอร์ที่มีความเสี่ยงในการแพร่กระจายของโรค โดยในเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่าจะได้รับจัดสรรวัคซีน ประมาณ 2.5 ล้านโดส และเดือนกรกฎาคม คาดว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มอีก 2.5 ล้านโดส กทม.จึงจำเป็นต้องเร่งการให้บริการฉีดวัคซีน โดยจะขยายการให้บริการครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายประชาชนทั่วไป อายุ 18 – 59 ปี 10 เดือน เพื่อรับวัคซีน ณ หน่วยบริการวัคซีนนอกโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดแนวทางและการพัฒนาระบบการจองให้มีประสิทธิภาพและเปิดกว้างเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มให้ได้มากที่สุด” ร.ต.อ.พงศกรกล่าว และว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ 60 ปี และประชาชนกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง ที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมและช่องทางอื่นๆ ไปแล้ว ขอให้เข้ารับการฉีดวัคซีน ณ โรงพยาบาลที่จัดให้เท่านั้น เนื่องจากประชาชนกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด

 

 

ด้าน พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดในชุมชนพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ส่วนใหญ่พบการระบาดในชุมชนใจกลางกรุงเทพฯ ในส่วนการระบาดของชุมชนคลองเตยได้ดำเนินการคัดกรองเชิงรุกไปแล้ว 39 ชุมชนเสี่ยง จำนวน 34,130 คน พบผู้ติดเชื้อ 1,555 คน โดยพบว่า 3 ชุมชน มีการติดเชื้อสูง และมีความเชื่อมโยงกับตลาด

 

 

“ซึ่งในพื้นที่ชุมชนได้นำหลักการ Community Isolation คือ ชาวชุมชนควบคุมดูแลผู้ป่วยในบ้าน/ชุมชนเอง กทม.จึงได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปให้คำแนะนำและร่วมดูแล พบว่าประสบผลสำเร็จดี จากนี้ กทม.จะนำหลักการเดียวกันนี้มาใช้ในการดูแลผู้ติดเชื้อในตลาด ร่วมกับการใช้มาตรการบับเบิล แอนด์ ซีล เช่นเดียวกับแคมป์คนงาน โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เพื่อดูแลให้มีการเข้าออกพื้นที่ให้น้อยที่สุด ไม่ได้มีการปิดพื้นที่แต่อย่างใด นอกจากนี้ กทม. มูลนิธิ องค์กรจะเข้าไปดูแลเรื่องอาหารสำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ จากนั้น จะมีการฉีดวัคซีนให้คนกลุ่มนี้เพื่อป้องกันและควบคุมโรคต่อไป ทั้งนี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม รวม 150,090 ราย ผู้ที่ได้รับเข็มที่ 1 รวม 219,642 ราย รวมวัคซีนที่ฉีดไปแล้ว จำนวน 519,822 โดส (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พ.ค.64 เวลา 08.00 น.)” ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม.กล่าว

 

 

นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวว่า กทม.ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายสถานพยาบาลเตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนสำหรับกลุ่มเป้าหมายประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มเป้าหมายประชาชน 7 กลุ่มโรคเสี่ยงในเดือนมิถุนายน โดย ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีสถานพยาบาลที่จะให้บริการ รวมจำนวนทั้งสิ้น 126 แห่ง ยอดการรับจองวัคซีนขณะนี้ จำนวน 400,000 คน สำหรับการให้บริการกลุ่มเป้าหมายอื่น เพื่อให้การบริการเป็นไปตามเป้าหมาย กทม.ได้ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดให้บริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล จำนวน 25 จุด ซึ่งจะบริหารจัดการการให้บริการให้เป็นอย่างมีคุณภาพ ภายใต้มาตรฐานที่กำหนดอย่างเคร่งครัด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง