TFGหมู-ไก่ดีมานด์ขาขึ้น จัด3.5พันล.ต่อยอดขาย
#TFG #ทันหุ้น - TFG เดินหน้าขยาย “ร้านไทย ฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต “เพิ่ม 400 สาขา ดันรายได้รวมทั้งปี 2566 โต 15% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่ 52,697 ล้านบาท ชี้ดีมานด์หมู-ไก่สูง วางงบลงทุนประมาณ 3,000-3,500 ล้านบาท ลงทุนโรงงานผลิตอาหารสัตว์ / ฟาร์มเลี้ยงหมูเวียดนาม และแตกไลน์ธุรกิจอาหารสัตว์ ต่อยอดขายอนาคตแกร่ง
นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า ในปี 2566 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15% จากในปี 2565 มีรายได้รวม 52,697 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จาก 35,503 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 4,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 741% จาก 562 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายที่เติบโตอย่างต่อแข็งแกร่ง สอดรับดีมานด์หมูและไก่ที่เพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ทั่วโลกคลายล็อกดาวน์
หมู-ไก่ดีมานด์สูง
โดยแผนธุรกิจปี 2566 บริษัทเตรียมขยายตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขาย นอกเหนือจากโมเดลธุรกิจในส่วนของธุรกิจค้าปลีกที่จะกลายเป็นอีกแรงสนับสนุนให้ภาพรวมเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้
ธุรกิจไก่และหมูของบริษัทในปีนี้คาดว่ายังดีต่อเนื่อง จากปัญหาการขาดแคลน ซึ่งทำให้แนวโน้มราคาหมูและไก่จะยืนสูงต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายกำลังการเลี้ยงหมูในไทยและเวียดนามที่เพิ่มขึ้น และเน้นขายไก่ไปสู่ช่องทางที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางการส่งออกไก่สู่ต่างประเทศ สนับสนุนให้รายได้รวม และประสิทธิภาพการทำกำไรดีต่อเนื่อง
ทั้งนี้บริษัทเตรียมขยาย “ธุรกิจอาหารสัตว์” ในเวียดนาม หลังจากในช่วง 10 ปี ได้ขยายธุรกิจสุกร มาอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจุบันผลิตสุกรกว่า 40,000 ตัวต่อเดือน เเละปี 2567 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 80,000 ตัวต่อเดือน เเละปัจจุบันมีมาร์เก็ตเเชร์ในประเทศเวียดนามในอันดับที่ 4-5 โดยคาดว่ามาร์เก็ตเเชร์ในสิ้นปี 2566 จะเพิ่มขึ้นมาที่อันดับ 3 ตามเป้าหมายที่วางไว้
“ในปี 2566 เวียดนามปีนี้บริษัทจะเริ่มธุรกิจอาหารสัตว์ จากเดิมบริษัทลงทุนธุรกิจสุกรในเวียดนามมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี และมีแผนขยายเพิ่มเติมในปีนี้เนื่องจากมองว่าประเทศมีศักยภาพในการเติบโตสูง ประชากรอายุน้อย และมีตัวเลข GDP ที่ให้ระดับสูงสามารถฟื้นตัวจาก โควิด-19 ได้แบบ “V-Shape” มองว่าในระยะยาวจะสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี ” นายวินัย กล่าว
ลุยร้านไทย ฟู้ดส์
ในปี 2566 บริษัทจะให้ความสำคัญกับการขยายฐานธุรกิจค้าปลีกภายใต้แบรนด์ “ร้านไทย ฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต “มากขึ้น เพื่อเพิ่มมาร์จิ้น โดยมีแผนเปิดสาขาใหม่ เพิ่มเป็น 400 สาขาภายในปีนี้ จาก ณ สิ้นปี 2565 มีประมาณ 220 สาขา เพื่อรองรับความต้องการลูกค้า ซึ่งปัจจุบันมียอดขายต่อสาขาต่อวันที่ราว 122,828 บาท โดยมีสัดส่วนยอดขายจากหมูและไก่อยู่ที่ราว 81.4% พร้อมประมาณการเป้ารายได้รวมปีนี้ของ “ร้านไทย ฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต “ คาดจะอยูที่ 14,000 ล้านบาท จากปี 2565 ที่ราว 6,000 ล้านบาท เเละจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 20% ขึ้นไป
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุนประมาณ 3,000-3,500 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนขยายโรงงานผลิตอาหารสัตว์และฟาร์มเลี้ยงหมูในประเทศเวียดนาม, เสริมศักยภาพธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ในประเทศเวียดนาม รวมถึงการขยายสาขาในส่วนของธุรกิจค้าปลีก ตลอดจนปรับปรุงธุรกิจในส่วนต่างๆ หวังเสริมศักยภาพของการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
จ่ายปันผล 23 พ.ค. 66
อย่างไรก็ดีที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายปันผลจากงวดผลการดำเนินงานในปี 2565เป็นเงินสดในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น Yield เงินปันผลสูง 5.5% (จ่ายระหว่างกาล 0.10 บาท คิดเป็น Yield เงินปันผลรวม 7.3%) โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566