‘ททท.’ เผยตัวเลขผู้ประกอบการโรงแรมลงทะเบียนร่วม ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ อืดจัด 3 วันผ่านไป สำเร็จแค่ 170 ราย
‘ททท.’ เผยตัวเลขผู้ประกอบการโรงแรมลงทะเบียนร่วม ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ อืดจัด 3 วันผ่านไป สำเร็จแค่ 170 ราย
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการเที่ยวปันสุข เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ประกอบด้วย 2 แพคเกจ ได้แก่ แพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน และกำลังใจ โดยในส่วนของแพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน ได้เปิดให้ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ร้านของหวาน และร้านเครื่องดื่ม รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยล่าสุดนับตั้งแต่วันที่ 1-3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการสมัครลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการสำเร็จแล้ว 170 ราย ส่วนจำนวนผู้ประกอบการที่ยื่นเรื่องลงทะเบียนเข้ามาทั้งหมด ยังไม่ได้รับข้อมูลจากผู้จัดทำตัดทำระบบ จึงยังไม่มีตัวเลขรวมทั้งหมดออกมา ซึ่งคาดว่าผู้ประกอบการอาจยังอยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียดต่างๆ โดยคิดเป็นสัดส่วนกว่า 99% ของผู้ประกอบการที่ผ่านการอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการแล้วเป็นโรงแรมและที่พักทั้งหมด ส่วนร้านอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม มีบางส่วนที่เคยลงทะเบียนไว้แล้วในโครงการชิมช้อปใช้ ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลเดิมมาอัพเดทเข้าร่วมโครงการได้
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ขณะนี้พบว่ามีประเด็นที่ทำให้ต้องตรวจสอบผู้ประกอบการโรงแรมและที่พักเพิ่มเติมเกิดขึ้น ในส่วนของมีบางโรงแรมที่จดทะเบียนขออนุญาตประกอบธุรกิจตามกฎหมายแล้ว แต่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นการประกอบธุรกิจโรงแรมโดยเฉพาะ ซึ่งก็ต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานผู้รับผิดชอบ ในการตรวจสอบว่า ผู้ประกอบการเหล่านี้ มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสามารถเข้าร่วมได้หรือไม่ และหากขาดคุณสมบัติในข้อใด จะสามารถอนุโลมได้หรือไม่ รวมถึงต้องมีการเตรียมเอกสารข้อมูลทุกอย่างให้ครบถ้วน จึงคาดว่าผู้ประกอบการน่าจะลงทะเบียนเข้ามาอยู่ในระบบจำนวนมากแล้ว แค่ยังติดที่ต้องดำเนินขั้นตอนในส่วนของเอกสารให้เรียบร้อยก่อน โดยเบื้องต้นมีกลุ่มที่อาจเข้าข่ายได้รับการผ่อนปรน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผู้ประกอบการที่พักที่อยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม 2.กลุ่มที่เคยมีใบอนุญาตประกอบการโรงแรมอยู่แล้ว แต่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี และ 3.กลุ่มที่ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบการ แต่มีมาตรฐานการให้บริการที่ดีเทียบเท่าโรงแรม อาทิ กลุ่มบูทีคโฮเทล ซึ่งอาจผ่อนผันให้เข้าร่วมโครงการต่อไป
“ทราบมาว่ากระทรวงการคลังได้อนุญาตให้ประชาชนจองโรงแรมและห้องพักผ่านผู้ประกอบการโอทีเอ หรือแพลตฟอร์มจองห้องพัก โรงแรมในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สามารถเข้าร่วมโครงการได้ แต่มีข้อแม้ว่า โอทีเอจะต้องห้ามคิดค่าธรรมเนียมกับผู้ประกอบการโรงแรมหรือที่พักทั้งหมดที่ถูกจองผ่านโครงการเที่ยวปันสุข” นางสาวฐาปนีย์กล่าว
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า สำหรับแพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน รัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรมที่พัก จำนวน 5 ล้านห้องต่อคืน โดยรัฐบาลจะช่วยจ่าย 40% ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน และให้คูปองดิจิทัล หรืออีวอชเชอร์มูลค่า 600 บาทต่อวัน ใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ โดยชำระเงินเพียง 60% อีก 40% จะถูกหักจากคูปองดิจิทัล ซึ่งจะได้รับก็ต่อเมื่อทำการเช็คอินเข้าที่พักแล้วภายในวันนั้นๆ หลังเวลา 17.00 น.ของทุกวัน 3.การสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง โดยมีการจำกัดห้องพักละ 2 ที่นั่ง ตามจำนวนห้องที่เข้าพักจริง แต่รวมไม่เกิด 10 ที่นั่ง ซึ่งค่าตั๋วเครื่องบินจะถูกคืนให้กับผู้ได้รับสิทธิ์ก็ต่อเมื่อมีการเดินทางแล้ว และมีการจองห้องพักด้วย เพื่อป้องกันการเดินทางในวัตถุประสงค์อื่น นอกเหนือจากการเดินทางท่องเที่ยว โดยสามารถลงทะเบียนรับค่าตั๋วเครื่องบินคืนได้บนเว็บไซต์ของสายการบินนั้นๆ ส่วนแพคเกจกำลังใจ เพื่อขอบคุณอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้เที่ยวในประเทศ 2 วัน 1 คืน คนละไม่เกิน 2,000 บาท โดยจะเปิดให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ส่วน อสม.,อสส., และ รพ.สต. สามารถเข้าไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ภายในวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 และเดินทางท่องเที่ยวได้ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2563