UACชูโค้งสามผลงานเติบโต คงเป้ารายได้ปีนี้ทะยาน15%
UAC มองแนวโน้มผลงานไตรมาส 3/66 เด่น ปูพรมบุ๊ครายได้จากการ COD เครื่อง Generator #1 ขนาดกำลังการผลิต 1.5 เมกะวัตต์ ของโครงการโรงไฟฟ้าภูผาม่าน และการส่งขาย RDF3 ให้โรงปูนคำม่วน คงเป้ารายได้ปี 2566 โตไม่ต่ำกว่า 15% พร้อมรักษาระดับ EBITDA มากกว่า 20% ของรายได้ยอดขายรวม
นางสาวอารีย์ พลีขันธ์ ผู้จัดการฝ่ายบัญชี บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาส 3/2566 คาดว่าแนวโน้มจะมีการเติบโตที่ใกล้เคียงกันกับเมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า และยังคงต้องจับตารอดูนโยบาลของรัฐบาลชุดใหม่อย่างเป็นทางการอีกครั้งว่าจะออกมาในทิศทางใด ขณะที่ทิศทางธุรกิจในไตรมาส 3/2566 นั้น มองว่าจะมีการขยายตัวที่ดีขึ้นจากไตรมาส 2/2566 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 473.56 ล้านบาท
*จ่อบุ๊ครายได้ใหม่
สาเหตุหลักๆ มาจากการรับรู้รายได้เพิ่มเติมจากการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) เครื่อง Generator #1 ขนาดกำลังการผลิต 1.5 เมกะวัตต์ ของโครงการโรงไฟฟ้าภูผาม่าน (PPM) ภายในไตรมาส 3/2566 นี้ และคาดว่าเครื่อง Generator #2 ขนาดกำลังการผลิต 1.5 เมกะวัตต์ จะสามารถ COD ได้ภายในช่วงไตรมาส 4/2566 หรือรวมจ่ายไฟฟ้าทั้งสิ้น 3 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จากไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าในช่วงไตรมาส 3/2566 จะมีการรับรู้รายได้จากการส่งขาย RDF3 ของโรงงาน RDF ในเวียงจันทน์ ประเทศลาว ให้กับโรงปูนคำม่วน ซึ่งเริ่มทยอยส่งมอบไปแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา สำหรับโรงงานผลิต RDF3 ที่เมืองสุขภูมิ ในประเทศอินโดนีเซียนั้น คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปลายปี 2566 และแล้วเสร็จพร้อม COD ในเดือนมิถุนายน 2567 เป็นต้นไป สนับสนุนการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคต
ในส่วนของธุรกิจการสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียม ทั้งการขุดจากแหล่งผลิตปิโตรเลียมหมายเลข L10/43 และการขุดเจาะปิโตรเลียมล็อตแรกจากแหล่งผลิตปิโตรเลียม L11/43 นั้น มองว่าในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2566 มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรกของปีนี้ พร้อมกันนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในการเพิ่มขีดความสามารถในการขุดเจาะเพื่อเพิ่มอัตรากำลังการผลิตให้มากขึ้นในอนาคต
ด้านกลุ่มธุรกิจ Trading นั้น ปัจจุบันยังคงได้รับคำสั่งซื้อใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 3/2566 และ 4/2566 จะสามารถส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้ตามกำหนดที่วางไว้ ส่วนธุรกิจไบโอดีเซลก็ทำได้ดี สำหรับธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ที่ดำเนินการร่วมกับ QTC ปัจจุบันเดินหน้าในการติดตั้งสถานีชาร์จต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2566 บริษํทมีแผนจะติดตั้งสถานีชาร์จใหม่อีก จำนวน 2 แห่ง
*คงอิบิด้าเหนือ20%
อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2566 และ 4/2566 ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมในปี 2566 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 1,719.51 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้สามารถทำรายได้รวมเติบโตได้แล้วที่ระดับ 940.07 ล้านบาท พร้อมทั้งรักษาระดับการเติบโตของอัตรากำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มากกว่า 20% ของรายได้ยอดขายรวม