แวนซ์เยือนอินเดียพร้อมครอบครัว คุยกับโมดีเชื่อมความสัมพันธ์

เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงเดลีของอินเดีย เมื่อวานนี้ ซึ่งเขาเดินทางไปพร้อมกับ อูชา แวนซ์ ภรรยา และลูก ๆ อีกสามคน โดยเขาจะเยือนอินเดียเป็นเวลา 4 วัน ซึ่งเป็นการเยือนเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และเพื่อเจรจาเรื่องการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียของ โดนัลด์ ทรัมป์ ด้วย
แวนซ์และครอบครัวได้เข้าพบกับนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดีย ซึ่งบรรยากาศเป็นด้วยความเป็นกันเอง เพราะว่าภรรยาของแวนซ์ เป็นคนอเมริกันเชื้อสายอินเดีย ดังนั้น ลูก ๆ ทั้งสามคน จึงมีเชื้อสายอินเดียอยู่ครึ่งหนึ่ง ทำให้การมาเยือนอินเดียครั้งนี้ของแวนซ์ดูมีความเป็นกันเอง เหมือนเป็นคนในครอบครัว ซึ่งตามกำหนดการแล้ว แวนซ์และครอบครัวจะเดินทางไปเยือย ทัชมาฮาล สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอินเดีย และเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกด้วย
ทางทำเนียบขาวบอกว่าการเยือนอินเดียของแวนซ์จะมีการพูดคุยกันเรื่องการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ ส่วนทางรัฐบาลอินเดียบอกว่าการเดินทางเยือนของแวนซ์จะเปิดโอกาสให้ทั้งสองประเทศเพิ่มความร่วมมือแบบทวิภาคี
แม้โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นเรนทรา โมดี นายกของอินเดีย จะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่อินเดียยังถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 26% แม้ว่าอินเดียจะได้รับการเลื่อนการขึ้นภาษีออกไป 90 วัน แต่เรื่องนี้ก็ยังสร้างความหนักใจให้รัฐบาลอินเดีย และหวังว่าจะเจรจาหาทางออกเรื่องนี้กับสหรัฐฯ ได้
การเดินทางเยือนอินเดียของแวนซ์สร้างความหนักใจให้ภาคเกษตรกรรมของอินเดีย โดยเฉพาะผู้ผลิตนมวัว ที่อาจตกเป็นฝ่ายได้รับผลกระทบจากการเจรจาครั้งนี้ เพราะสหรัฐฯ ต้องการให้ประเทศอื่น ๆ สั่งซื้อสินค้าเกษตรกรรมจากสหรัฐฯ มากขึ้น ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ทางอินเดียต้องการให้สหรัฐฯ ช่วยแก้ไข คือคนอินเดียที่ไปทำงานในสหรัฐฯ ถูกจับและถูกส่งกลับประเทศจำนวนมาก จากนโยบายปราบปรามผู้อพยพผิดกฎหมาย ซึ่งแม้คนอินเดียหลายคนจะมีวีซ่าทำงานที่ถูกต้อง แต่ยังถูกส่งกลับประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางอินเดียจะพยายามขอความชัดเจนจากสหรัฐฯ ในการเยือนครั้งนี้ด้วย โดยทางอินเดียหวังว่าจะสามารถทำข้อตกลงเรื่องการค้ากับสหรัฐฯ ได้ ภายในช่วงที่มีเวลาระงับการขึ้นภาษี 90 วัน