ฟังชัดๆ 'แบงก์ชาติ-ส.ธนาคารไทย' ผุดมาตรการสกัดแก๊งดูดเงิน แนะ 'ไม่ใช้อย่าจ่าย-คืนเงิน'
มติชน
19 ตุลาคม 2564 ( 13:22 )
27
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยัน กรณีการตัดเงินที่ผิดปกติ ผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้าจำนวนมาก (17 ต.ค.) ไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลจากระบบธนาคาร สาเหตุสำคัญเกิดจากการที่มิจฉาชีพสุ่มข้อมูลบัตรและนำไปสวมรอยทำธุรกรรมผ่านร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศ ที่ไม่มีการใช้ OTP (ส่วนใหญ่มีจำนวนเงินต่อรายการต่ำ) ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. มีบัตรใช้งานผิดปกติ จำนวน 10,700 ใบ จากบัตรเดบิตเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ธนาคารมีระบบตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ
ธปท. และ สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกัน-แก้ปัญหา
- ตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ ให้ครอบคลุมทั้งธุรกรรมที่มีจำนวนเงินต่ำและที่มีความถี่สูง หากพบธุรกรรมผิดปกติ ธนาคารจะระงับการใช้บัตรทันทีและแจ้งลูกค้าในทุกช่องทาง
- ติดตามเฝ้าระวังรายการธุรกรรมจากต่างประเทศเป็นพิเศษ
- เพิ่มการแจ้งเตือนลูกค้าในการทำธุรกรรมทุกรายการ ตั้งแต่รายการแรกผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ระบบ Mobile banking อีเมล หรือ SMS
- กรณีที่ตรวจพบว่าลูกค้าได้รับผลกระทบจากการทุจริต กรณีบัตรเดบิตลูกค้าจะได้รับการคืนเงินภายใน 5 วันทำการ
- ส่วนบัตรเครดิต ธนาคารจะยกเลิกรายการดังกล่าว ลูกค้าไม่ต้องชำระเงินตามยอดเรียกเก็บที่ผิดปกติ และจะไม่มีการคิดดอกเบี้ย
- เร่งหารือกับผู้ให้บริการเครือข่ายบัตร เช่น Visa Mastercard เพื่อกำหนดให้ใช้การยืนยันตัวตนเพิ่มเติม เช่น OTP กับบัตรเดบิตสำหรับร้านค้าออนไลน์
- เมื่อลูกค้าพบความผิดปกติของธุรกรรมด้วยตนเอง สามารถติดต่อคอลเซ็นเตอร์หรือสาขาของธนาคารผู้ออกบัตร เพื่อแจ้งตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของธุรกรรมในทันที
- ประชาชนทั่วไปควรตรวจสอบการทำธุรกรรมของตนเองอย่างสม่ำเสมอ
- ระมัดระวังการผูกบัตรเดบิตในการทำธุรกรรม โดยเฉพาะกับแพลตฟอร์มที่มีความเสี่ยง เช่น เกมออนไลน์ แพลตฟอร์มที่ไม่มีการยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้งาน หรือไม่มี OTP
- บางธนาคารลูกค้ายังสามารถเปิด/ปิดการใช้งานของบัตร เปลี่ยนแปลงวงเงินการใช้บัตร หรืออายัดบัตรได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร