อนุทิน ให้กำลังใจ อสม. สู้ไวรัส ตั้งเป้าจบโควิด-19 ไทยเป็นที่ 1 สาธารณสุขโลก

วันนี้ (19 เม.ย.63) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ อสม. ในพื้นที่คลองสาม ปทุมธานี โดย ระบุว่า ในฐานะประธานสำนักงานหลักประกันสุขภาพ ได้มีการพูดคุยในวงประชุม และพูดถึงการขับเคลื่อนสุขภาพที่สำคัญที่สุด จะต้องมี อสม.เข้ามาช่วย โดยต่างประเทศ ได้มีการชื่นชม เหล่าอสม. ด้วย โดย อสม. เป็นปัจจัยสำคัญในการปราบโควิด-19 ในประเทศไทย ทำให้ไทยสามารถคุมโควิด-19 ได้

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ตนได้บอกในที่ประชุมสำนักงานหลักประกันสุขภาพ ขอให้ อสม.ถูกเทียบเท่า เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และจะได้รับการดูแลคุ้มครองเท่ากับบุคลากรทางการแพทย์ มีการมอบกรมธรรม์ต่างๆ หากติดเชื้อจนเสียชีวิต กรมธรรม์จะดูแล รายละ 500,000 บาท แต่ไม่อยากให้ใครต้องติดเชื้อ

ขณะที่ มาตรการต่างๆที่รัฐประกาศอยู่ขณะนี้ ทั้งการประกาศเคอร์ฟิว การปิดสถานที่แออัด เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเรื่อยๆ และขอให้ประชาชนอดทน รัฐบาลไม่ได้อยู่นิ่งเฉย ไม่ได้มีความสุขในการจำกัดเสรีภาพของประชาชน แต่มีความจำเป็นที่ไม่ให้โควิด-19 แพร่กระจาย

ที่สำคัญในช่วงที่ยังไม่คลายมาตรการ และยังไม่มีวัคซีนป้องกันประชาชน ยังคงต้องปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดในการป้องกันตัวเอง และหากอนาคตมีการพิจารณาคลายมาตรการบางอย่างลง ประชาชนต้องปรับตัวใช้ชีวิตในการป้องกันโรคโควิด19 เหมือนเช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศตั้งเป้า หมดโควิด-19 ประเทศไทย จะเป็นที่ 1 ของโลก ในด้านสาธารณสุขให้ได้

ด้าน นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง สาธารณสุขจังหวัด ระบุว่า สำหรับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยยืนยัน 33ราย อยู่ที่20 ของประเทศ ส่วนใหญ่รักษาหายกลับบ้าน ตอนนี้มีรักษาตัวในโรงพยาบาล8 ราย โดยในช่วง9 วันที่ผ่านมา จังหวัดปทุมธานี ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ติดเชื้อเพิ่มในพื้นที่ ส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี มีศูนย์บริหารจัดการจังหวัด ที่สาธารณสุขจังหวัด ในการกระจายอุปกรณ์ทางการแพทย์ เบื้องต้นไม่ขาดแคลน และอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน ส่วนงบเสี่ยงภัยบุคลากรทางการแพทย์ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้โอนงบมาให้แล้ว 2 งวด สำหรับในจังหวัดปทุมธานี มี อสม. รวมประมาณ 9,700 คน 

ด้าน นายประสาน แขกซอง รองประธานตำบล คลองสาม และประธานอสม.ตำบลคลองสาม เปิดเผยกับทีมข่าว TNN ว่า อสม.ในตำบลคลองสาม ทั้งหมู่ 5 และหมู่ 8 มีประมาณ 313 ราย ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้มีการเรียกประชุม อสม.ในพื้นที่ จะทำหน้าที่ในการสอดส่องดูและประชาชนในชุมชน มีการแบ่งพื้นที่ หากพื้นที่ไหนมีหมู่บ้านใหญ่ ประชากรเยอะก็จะแบ่งจำนวน อสม. ดูแลในพื้นที่เยอะ โดยการทำงานของอสม.ที่นี่ จะรับคำสั่งจากอนามัยในพื้นที่ หากพบว่ามีประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ามายังพื้นที่ ไม่ว่าจะมาจากต่างจังหวัด หรือ ต่างประทศ อสม.ก็จะเริ่มทำงานทันที คือ เข้าไปทำการดูแลคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ ให้คำแนะนำในการดูแลกักตัวเอง โดย อสม.ผู้สูงอายุ 60 ขึ้นไปจะไม่ให้ออกปฏิบัติหน้าที่

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand