รีเซต

สปสช. สั่งตรวจสอบปมทุจริตสิทธิ "บัตรทอง" เพิ่มอีก 106 แห่ง

สปสช. สั่งตรวจสอบปมทุจริตสิทธิ "บัตรทอง" เพิ่มอีก 106 แห่ง
TNN ช่อง16
21 กันยายน 2563 ( 17:10 )
975
สปสช. สั่งตรวจสอบปมทุจริตสิทธิ "บัตรทอง" เพิ่มอีก 106 แห่ง

วันนี้( 21 ก.ย.63) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อกองทุนบัตรทอง โดยได้ระบุถึงกรณีผลกระทบประชาชนในการยกเลิกคลินิกชุมชนอบอุ่นและโรงพยาบาล ในกรุงเทพมหานคร หลังพบการทุจริตการเบิกจ่าย ว่า ต้องขออภัยประชาชนในปัญหาที่เกิดขึ้น และในช่วงแรกอาจจะติดขัดในระบบการประสานงาน ส่งต่อข้อมูลอยู่บ้าง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามเต็มที่ในการเร่งช่วยเหลือ โดยผู้ป่วยจะยังคงได้รักษาต่อแน่นอน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอทำความเข้าใจว่า ไม่ใช่เป็นการยกเลิกสิทธิบัตรทองประชาชนยังคงใช้สิทธิได้เหมือนเดิม โดยคนที่ทำผิดทุจริตต้องได้รับโทษทางกฎหมายให้ถึงที่สุด เนื่องจากเงินที่ทุจริตเป็นเงินจากภาษีประชาชน

ทั้งนี้ ได้แนวทางในนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที ทาง นายอนุทิน ระบุว่า ได้สั่งการในหลักนโยบายให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดพัฒนาแนวทาง เบื้องต้นอาจนำร่องในพื้นที่อีสานใต้ก่อน ส่วนความกังวลว่าจะทำให้ประชาชนแห่ไปรักษายังโรงพยาบาลหลัก นาย อนุทิน ระบุว่า ถ้าเราทำให้สถานพยาบาลทุกที่มีความสะดวกสบายมีการรวบรวมฐานข้อมูลออนไลน์ที่เชื่อมโยงกันในข้อมูลผู้ป่วย ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบและจะทำเป็นโซนๆที่สำคัญจะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่สถานพยาบาลและประชาชนที่จะเข้ารับบริการ

ขณะที่ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ระบุว่า ประชาชน ผู้ป่วยที่สิทธิการรักษาอยู่ในรพ.ที่ยกเลิกสิทธินั้น สามารถดำเนินการรักษารับยาต่อเนื่องได้ โดยระหว่างรอขึ้นทะเบียนสถานพยาบาลแห่งใหม่ ผู้ป่วยเหล่านี้จะมีสถานะพิเศษ หรือ เรียกว่า สิทธิว่างในการขอเข้ารับบริการต่อยังสถานพยาบาลได้ทุกแห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายซึ่งโรงพยาบาลจะเรียกเก็บจาก สปสช.เอง เช่น กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือ ผู้ป่วยที่ต้องรับยาต่อเนื่อง 

ส่วนการขอประวัติการรักษาจากสถานพยาบาลแห่งเดิมไปยังสถานพยาบาลแห่งใหม่ ผู้ป่วยไม่ต้องเสียเงินในการขอเวชระเบียน เพียงแค่นำบัตรประชาชนและไปแจ้งสิทธิรายละเอียดที่สถานพยาบาลแห่งใหม่ได้เลย 

โดย กรุงเทพมหานคร แบ่งผู้ป่วย ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยที่นัดหมายไว้แล้ว เช่น ผู้ป่วยที่จะเข้ารับการผ่าตัด ฟอกไต ผู้ป่วยมะเร็ง รับคีโม ผู้ป่วยHIV จะมีการประสานข้อมูลไปยังสถานพยาบาลแห่งใหม่ทันที ในการรักษาและรับยาต่อเนื่อง ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มHIV ที่มีประมาณ 2,166 ราย ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ขาดยาไม่ได้ หากผู้ป่วยพบว่ายาของท่านใกล้หมดให้ประสานมายังเจ้าหน้าที่สายด่วน 1663 หรือ สปสช. ในการจัดสรรให้มารับยา กลุ่มโรคเรื้อรัง จะมีการประสารส่งต่อประวัติการรักษาให้ในกลุ่มนี้อาจต้องใช้ระยะเวลา 

เบื้องต้นการรองรับช่วยเหลือผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบได้มีการเพิ่มหน่วยบริการในการตรวจรักษาผู้ป่วย โดยมีคลินิกเอกชนเพิ่ม 20 แห่ง ขณะที่สายด่วย 1330 ยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมามีประชาชนโทรเข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมาก อาจจะทำให้รอนาน หรือ โทรไม่ติดจากเดิมเดือนละ 60,000 สาย ตอนนี้เพิ่มมาประมาณวันละ 20,000 สาย ซึ่งได้มีการเพิ่มสายอัตโนมัติในการตอบคำถามที่ประชาชนเข้ามาสอบถามมากที่สุดระหว่างรอเจ้าหน้าที่รับสาย

สำหรับคลินิกชุมชนอบอุ่นและโรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร ที่พบการทุจริตเบิกจ่ายสิทธิบัตรทองและสปสช.สั่งยกเลิกสิทธิการรักษา รอบแรก 18 แห่ง รอบ 2  อีก 64 แห่ง แบ่งเป็นคลินิก 54 แห่ง , โรงพยาบาล 10 แห่ง ซึ่งครอ[คลุมในเขตสุขภาพที่ 13 ของ กทม. มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น ประมาณ 150 ล้านบาท

ขณะเดียนกัน สปสช.อยู่ระหว่างตรวจสอบคลินิกและโรงพยาบาลเพิ่มเติมอีก 106 แห่ง ซึ่งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร คาดอาจมีประชาชนได้รับผลกระทบอีกจำนวนหนึ่ง



ข่าวที่เกี่ยวข้อง


เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง